นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการนำมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 บัญญัติไว้ในหมวดศาล โดยเห็นว่าจำเป็นต้องมีกลไกบรรจุในรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขปัญหากรณีเกิดวิกฤตและหาทางออกไม่ได้ ซึ่งถือว่าผู้ร่างรัฐธรรมนูญมีเจตนาแก้ไขปัญหาให้บ้านเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารอีก โดยออกแบบกลไกให้ศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่แทนการใช้มาตรา 7 ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ใช้กระบวนการยุติธรรมตอบโจทย์แก้ไขปัญหา แทนการเรียกร้องให้มีนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 หรือนายกรัฐมนตรีพระราชทาน แต่ต้องคำนึงถึงการวางรูปแบบของขั้นตอนให้สิทธิผู้ที่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ต้องทำให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจมากเกินไป และต้องทำให้คำวินิจฉัยเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤต รวมถึงการบังคับให้ปฎิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากมีการละเมิดหรือไม่ปฎิบัติ ส่วนเรื่องของคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.)
นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นกลไกเดิมของคณะกรรมาธิยกร่างรัฐธรรมนูญชุดก่อน มีเสียงตอบรับไม่ดี คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันจึงได้กำหนดใช้กลไกเดิม ส่วนสมาชิก สนช.จะเห็นด้วยหรือไม่ สัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฯ พิจารณาประเด็นดังกล่าว รวมทั้งจะเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิก สนช.หลังได้รับร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก โดยจะประชุมคู่ขนานในระหว่างรอร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกอย่างเป็นทางการ
นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นกลไกเดิมของคณะกรรมาธิยกร่างรัฐธรรมนูญชุดก่อน มีเสียงตอบรับไม่ดี คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันจึงได้กำหนดใช้กลไกเดิม ส่วนสมาชิก สนช.จะเห็นด้วยหรือไม่ สัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฯ พิจารณาประเด็นดังกล่าว รวมทั้งจะเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิก สนช.หลังได้รับร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก โดยจะประชุมคู่ขนานในระหว่างรอร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกอย่างเป็นทางการ
