xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์-ฮุน เซน” ถกร่วม ครม.ไทย-กัมพูชา ยันไม่มีการแอบตกลงกันเรื่องพลังงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกฯไทย-กัมพูชา ร่วมแถลงประชุม ครม.ร่วมสองประเทศ ยันกระชับสัมพันธ์บนความไว้เนื้อเชื้อใจ ด้านพลังงานไม่มีการแอบตกลงกันก่อน รอตั้ง คกก.ว่ากันในอนาคต “ฮุน เซน” ปลาบปลื้ม “สมเด็จพระเทพฯ” สนพระทัยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งชาวกัมพูชา และไทย วางเป้าขยายความร่วมมือการค้าปี 63 พุ่ง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เล็งแต่งเพลงขอบคุณสร้างสะพานเชื่อมประเทศ

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (19 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 2 โดยมีรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม

ขณะที่ รัฐมนตรีกัมพูชา มีนายฮอร์ นัมฮง รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ และพล.อ.เตีย บัญ รองนายกฯและรมว.กลาโหม และนายซุน จันโทรว รมว.อาวุโส และ รมว.พาณิชย์กัมพูชา เข้าร่วม เป็นต้น

ภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์และสมเด็จฯ ฮุน เซน ได้เป็นสังขีพยานในพิธีร่วมลงนามเอกสาร 5 ฉบับ ประกอบด้วย แถลงการณ์ร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 2 บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรหนองเอี่ยน-สตึงบท บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงาน และข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา และสภาธุรกิจกัมพูชา-ไทย

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์และสมเด็จฯ ฮุน เซน ร่วมแถลงข่าว โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนในนามรัฐบาล รัฐมนตรี และประชาชนคนไทย มีความยินดีต้อนรับสมเด็จฯ ฮุน เซน และคณะ ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้มีการประชุมร่วมกัน หลังจากว่างเว้นมา 12 ปี ทั้งนี้เพื่อสร้างความร่วมมือในฐานะประชาคมอาเซียน

นอกจากนี้ วันที่ 19 ธ.ค.ยังเป็นฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 65 ปีเต็ม เราเห็นชอบร่วมกัน ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งอยู่ในสถานะที่ดีที่สุด ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของสองประเทศที่ผ่านมา โดยเราจะต้องร่วมมือกัน บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง และผลประโยชน์ที่เท่าเทียม ในลักษณะการเดินหน้าเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยสมบูรณ์ในต้นปีหน้า สำหรับเป้าหมายคือการสร้างความผาสุก และผลประโยชน์ประชาชนทั้งสองฝ่าย ลดช่องว่าง ยกระดับอาชีพ การค้า การลงทุน ความมั่นคง และวัฒนธรรม ให้มีความเจริญก้าวหน้า และสร้างความเข้มแข็งให้กับอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ด้านความมั่นคง ความร่วมมือ เพิ่มขีดความสามารถในหน่วยงานที่มีอยู่แล้วให้เข้มแข็งขึ้น เพิ่มภารกิจมากขึ้น เช่น เรื่องการค้ามนุษย์ การตัดไม้ทำลายป่า ยาเสพติด หรือปัญหาอื่นๆ ที่เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ๆ สำหรับการยกระดับจุดผ่านแดน และเพิ่มความร่วมมือด้านคมนาคม ประเด็นสำคัญ ความร่วมมือการสร้างสะพานที่หนองเอี่ยน เพื่อเชื่อมต่อกัมพูชา กำหนดสร้างแล้วเสร็จภายใน 1 ปี การเชื่อมต่อทางรถไฟทางกัมพูชา โดยใช้เวลาสร้าง 6 เดือน กำหนดเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้เป็น 3 เท่า ภายใน 5 ปี ได้มีการพูดคุยระหว่างรัฐบาลและนักธุรกิจทั้งสองฝ่ายซึ่งจะเร่งให้สูงขึ้นไปด้วยกันทั้งหมด รวมถึงความร่วมมือเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สระแก้วกับเตียเมียนเจย

สำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จะเพิ่มความร่วมมือการรักษาพยาบาล การศึกษา บุคลากรทางแพทย์ให้กับทางกัมพูชา และมีโครงการพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดเตรียมแรงงาน ส่วนเรื่องการสั่งซื้อสินค้าการเกษตร ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง ก็จะหาทางดำเนินงานที่เป็นไปได้ อย่างเป็นรูปธรรม ความร่วมมือด้านพลังงานจะมีแผนดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และความเข้าใจที่ตรงกัน ไม่มีการตกลงกันก่อน แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพูดคุยกันในสิ่งที่ทำได้ในอนาคต ส่วนการลงนาม 5 ฉบับ จะดำเนินการให้เป็นรูปธรรม เพื่อก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคทั้งหมด ให้ไปสู่ความร่วมมือที่ยั่งยืน ทุกอย่างความร่วมมือเราใช้หลักการที่ว่าประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อความผาสุกของประชาชนทั้งสองประเทศ เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทางรัฐบาลไทยจะเร่งพิจารณาในที่ประชุม ครม.ทำให้ถูกต้อง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้พูดกับตนว่าท่านได้เอาความรักความห่วงใยจากประชาชนกัมพูชามาฝากตนกับคนไทย เช่นเดียวกันตนก็ขอฝากกลับไปมากกว่า 2-3 เท่า

ทางด้านสมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวว่า ตนขอบคุณที่ให้โอกาสต้อนรับการมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ การประชุมร่วมระหว่างไทยและกัมพูชาไม่ใช่สิ่งบังเอิญที่เกิดขึ้น เพราะวันนี้ถือเป็นวันครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยาวนานมากกว่า 65 ปี ซึ่งเป็นการสะท้อนความร่วมมือและความสำเร็จระหว่างประเทศทั้งสอง ตนมีความภูมิใจอย่างยิ่งในความร่วมมือของประเทศทั้งสองที่ผ่านมา โดยสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่กัมพูชามีความสามารถที่จะขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือกันต่อไป ทั้งทางด้านการค้าการส่งออกระหว่างสองประเทศซึ่งที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปกัมพูชา 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกัมพูชาส่งออกมายังประเทศไทย 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสองประเทศได้ตกลงไว้ว่าในปี 2563 จะเพิ่มมูลค่าค้าขายระหว่างกันเป็นจำนวน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงจะมีการอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างกันมากขึ้น เช่น การเพิ่มด่านชายแดน และการทำเส้นทางรถไฟระหว่างกัน ซึ่งประเทศไทยจะเป็นผู้สนับสนุนการสร้างสะพาน ส่วนกัมพูชานั้นตนจะขอใช้โอกาสนี้ประพันธ์เพลงขึ้นมาเป็นจังหวะรำวงเพื่อใช้ในโอกาสการสร้างสะพานด้วย

“มีหลายเรื่องที่ผมมีความภูมิใจที่จะทำขึ้นมา ขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวไทยที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชามาโดยตลอด โดยเฉพาะขอขอบคุณ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่สนพระทัยในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งชาวกัมพูชาและไทย ซึ่งการประชุมร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้รับปากจะไปร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายการแถลงข่าว พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวหยอกล้อกับสมเด็จฯ ฮุน เซน และครม.ของทั้งสองประเทศว่า หากมีการประชุมร่วมครั้งที่ 3 แต่ข้อตกลงที่ทำร่วมกันในครั้งนี้ยังไม่มีความคืบหน้าก็จะสลับคณะรัฐมนตรีการทำงานระหว่างไทยกับกัมพูชากัน ทำให้คณะรัฐมนตรีต่างพากันหัวเราะกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น