รองเลขาฯ ปชป.มองปมใส่อาชีพลงบัตรประชาชน รัฐบาลสื่อสารสับสน หนุนให้เกิด Smart Government ทำได้ก็เป็นการบูรณาการข้อมูลประชาชน เปรียบเป็นกุญแจ ชี้ข้อมูลคงไม่แสดงบนกุญแจ แต่ไม่แน่ใจทันรัฐบาลชุดนี้ แนะเป็นรูปธรรมก่อนเสนอ หวั่นซ้ำรอย Single Gateway
วันนี้ (15 ธ.ค.) นายศิริโชค โสภา รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นต่อผู้สื่อข่าว ถึงกรณีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะให้นำเอาข้อมูลอาชีพ และข้อมูลรายได้ไประบุในบัตรประชาชนว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองได้นำเสนอ จนทำให้สื่อสารกับประชาชนไปแบบผิดๆ ตนเข้าใจว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะดำเนินการก็คือการทำให้เกิดสมาร์ทกัฟเวอร์เมนท์ (Smart Government) ขึ้น ถ้าหากทำได้นั้นก็จะเป็นการบูรณาการข้อมูลของประชาชนที่ถูกเก็บไว้ในหน่วยงานต่างๆของทางทางราชการ เช่น ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน ประวัติการศึกษา ประวัติอาชญากรรม ฐานข้อมูลประกันสังคม ข้อมูลเกษตรกร ทุกอย่างจะสามารถเข้าถึงและดำเนินการอัปเดตข้อมูลต่างๆ ได้โดยใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งเปรียบเสมือนกับว่าเป็นกุญแจนั่นเอง ดังนั้นข้อมูลต่างๆก็คงจะไม่ถูกแสดงลงบนสิ่งที่เป็นกุญแจอย่างแน่นอน
นายศิริโชคกล่าวต่อว่า ตนขอสนับสนุนให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะจะมีประโยชน์หลายอย่าง อาทิ ในอนาคตหากมีคนเบี้ยวหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. อีกก็สามารถติดตามดูข้อมูลได้เลยว่าเขามีงานทำหรือไม่ ถ้ามีงานทำแล้วก็สามารถหักเงินเดือนเอามาได้เลย เป็นต้น แต่ก็ไม่มั่นใจว่า Smart Government จะสามารถเกิดขึ้นได้ในรัฐบาลชุดนี้ เพราะว่าในตอนนี้เรามีแค่ตัวฐานข้อมูลเท่านั้นแต่ยังไม่มีระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลนั้นแม้จะมีเจตนาดีแต่กลับไม่สามารถสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลต้องการผลักดันได้ อีกทั้งแต่ละคนก็สื่อสารแบบไม่ตรงกันอีกซึ่งสร้างความสับสนเป็นอย่างมาก จนทำให้ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถสร้างระบบปฏิบัติการณ์ได้หรือไม่
“ผมขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาลหากต้องการจะสื่อสารกับสังคมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเทคโนโลยีและสารสนเทศนั้น รัฐบาลควรจะผลักดันให้มีความเป็นรูปธรรมโดยชัดเจนเสียก่อน แล้วค่อยมานำเสนอให้กับประชาชนได้รับทราบจะดีกว่ามานำเสนอแบบนี้ เพราะคราวก่อนรัฐบาลก็ได้นำเสนอเรื่องของ Single Gateway แบบที่ตัวรัฐบาลเองก็ยังไม่เข้าใจดี จนส่งผลทำให้สังคมเกิดความสับสนมาแล้วครั้งหนึ่ง”