อดีต ส.ส.ปชป.เผยสัปดาห์ยื่น ป.ป.ช.-สตง.สอบ กทม.จัดซื้อเปียโน จ่อเดินสายดูพัฒนาการดนตรีของนักเรียน กทม.สมราคาคุยหรือไม่ เตือน กทม.ไม่ส่งเอกสารซีซีทีวีตามเส้นตายเจอไม้สองยื่น ป.ป.ช.ส่อทุจริต ประกาศยุติแถลงเพิ่มเหตุประชาชนรับทราบแล้ว ไม่ทราบ “เทือก” ล็อบบี้ขออย่าขยี้ เชื่อ คสช.ไม่อนุญาตประชุมพรรค ปัญหาไม่จบ “วัชระ” วอนอนุมัติ เปิดประตูสู่ประชาธิปไตย
วันนี้ (13 ธ.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการบริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของผู้บริหาร กทม.ว่า ในกรณีเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเปียโนในสัปดาห์หน้าจะยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.และสตง.ต่อไป ขณะนี้ กทม.พยายามบอกว่ามีการเรียนจริง ตนจึงจะเดินทางไปโรงเรียนประสานสามัคคี เขตลาดกระบัง ในต้นสัปดาห์นี้เพื่อให้นักเรียนแสดงให้ดู ขอให้เตรียมเครื่องดนตรีไว้ให้ดี โดยต้องให้นำนักเรียนที่นำมาโชว์เป็นผู้แสดงรวมทั้งครูที่บอกว่าอบรมสองครั้งก็สอนได้แล้วมาแสดงให้ดูด้วย นอกจากนี้ กำลังค้นหาความจริงว่าเครื่องดนตรีบางโรงเรียนที่ไม่มีไปเก็บไว้ที่ไหน เพราะซื้อ 437 ชุด ไม่ใช่ 438 โรง ยกเว้นโรงเรียนเดียวที่ไม่มี ป.4-ป.6 คือ โรงเรียนคงโครัตอุทิศ เขตบางบอน แต่ขณะนี้บางโรงเรียนหาไม่เจอไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ต้องติดตามว่าเก็บไว้อย่างไร จากนั้นพุธ หรือพฤหัสบดีจะเดินทางไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้
ส่วนกรณีซีซีทีวีได้มีการยื่นเรื่องขอเอกสารอีกครั้งโดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อตรวจสอบว่ามีการฮั้วหรือทุจริตหรือไม่ ภายใน 1 เดือน แต่หากครบกำหนดในวันที่ 22 ธ.ค.แล้วยังไม่มอบเอกสารให้ก็จะไม่ยื่นต่อ กทม. แต่จะยื่นต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ป.ป.ช. และสตง. เนื่องจากการบ่ายเบี่ยงไม่ให้เอกสารส่อว่ามีพฤติกรรมไปในทางทุจริต และยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกแต่จะไม่แถลงข่าวโดยจะใช้วิธีส่งเอกสารให้ ป.ป.ช.เลยเพราะมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับรองผู้ว่าฯ ทุกคน แต่ไม่มีเรื่องร้องเรียนถึงตัวผู้ว่าฯ เพราะมีการแบ่งงานขาดเลย ส่วนที่สุดแล้วจะมีการเชื่อมโยงไปอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ทั้งนี้โดยหลักการแล้วแม้จะมีการมอบอำนาจไปแล้วผู้ว่าฯ กทม.ก็ต้องรับผิดชอบ แต่คงไม่ถึงกับคดีอาญาเพราะไม่ได้ดำเนินการเอง
“ที่ผมจะหยุดแถลงข่าวเพราะจะหาว่าเล่นซ้ำซาก ที่ผ่านมาได้แถลงเรื่องใหญ่สังคมรับรู้แล้ว เรื่องต่อจากนี้เป็นเรื่องย่อยจึงไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องแถลงอีก การที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทำหนังสือถึง คสช.ให้ทบทวนคำสั่งที่ 57 เพื่อให้มีการประชุมถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดแล้ว แต่ถ้า คสช.ไม่อนุญาต หัวหน้าพรรคอาจคุยเป็นการส่วนตัวว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ” นายวิลาศกล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ล็อบบี้ไม่ให้ดำเนินการเรื่องนี้นั้น นายวิลาศกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่นายสุเทพเคยเป็นผู้ใหญ่ในพรรคอาจจะคุยกับใครบ้าง แต่พรรคก็พยายามดำเนินการเรื่องนี้เพื่อแสดงความรับผิดชอบแล้ว แต่คงไม่จบอย่างนี้เพราะหัวหน้าฯ คงหาช่องทางในการแก้ปัญหาอยู่ ประชาชนก็ยอมรับว่าพรรคได้พยายามที่จะทำแล้วแต่ติดเงื่อนไขที่ คสช. จึงอยากให้ประชาชนตัดสินใจกันเองว่าจะมองผู้ว่าฯ กทม.อย่างไร เพราะขณะนี้ในสภา กทม.ก็มาจากสายการแต่งตั้ง แต่หลายคนยอมรับว่าไม่ใช่นักสู้ แม้ยอมรับว่ามีปัญหาแต่ไม่กล้าดำเนินการ เพราะส่วนใหญ่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทำให้ไม่เหมือนกับระบบตรวจสอบที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนปกติ
ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี พิจารณาข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ ทบทวนคำสั่ง คสช.ที่ 57 เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้รองรับกับแนวทางที่กำลังจะนำประเทศสู่ระบบประชาธิปไตย แต่หากไม่อนุญาตในกรณีนี้ก็จะทำให้มีคำถามต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์เพิ่มขึ้น
