ทีมงานผู้ว่าฯ กทม.เชื่อ “นายกฯ-มท.1” แค่เป็นห่วง “กล้องซีซีทีวี” ย่านราชประสงค์ ไม่ชัด! ยันวันเกิดเหตุ เสียแค่ 4 ตัว จาก 107 ตัว รับเป็นกล้องในพื้นที่ราชประสงค์ 1 ตัว สีลม 1 ตัว แยกนราธิวาสราชนครินทร์ 2 ตัว ย้ำ จนท.ตรวจสอบกล้องให้ใช้งานได้ทุก 15 วัน “รองฯแต้ม” โวยกล้องซีซีทีวีไม่ใช่หลักฐานทุกคดี ย้ำเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือการสอบสวน
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. และนางเบญทราย กียปัจจ์ รองโฆษก กทม. ร่วมแถลงข่าวกรณีกล้องซีซีทีวี กทม. บริเวณแยกราชประสงค์ หลังจากมีกระแสข่าวถึงประสิทธิภาพการทำงานของกล้องซีซีทีวี กทม. ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิชัยเริ่มต้นด้วยการกล่าวยืนยันว่า ในฐานะตัวแทน กทม.ขอยืนยันว่า กทม.ได้ให้ความร่วมมือในการทำงานของหน่วยงานทุกฝ่ายมาอย่างเต็มที่ สำหรับเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
“กล้องซีซีทีวีของ กทม.ที่ติดตั้งในบริเวณดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 107 ตัว โดยมีกล้องที่เสียใช้การไม่ได้จำนวน 4 ตัว เมื่อเกิดเหตุขึ้นและพบว่ากล้องใช้การไม่ได้ กทม.ก็เข้าแก้ไขโดยทันที ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าตำรวจได้ประสานมายัง กทม.เพิ่มขอข้อมูลจากภาพกล้องซีซีทีวีแล้วทั้งสิ้น 48 ครั้ง โดยภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นภาพจากกล้องซีซีทีวีของ กทม.ทั้งสิ้น”
ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากล้องซีซีทีวีของ กทม.สามารถเป็นหลักฐานหนึ่งในการสืบสวนดำเนินคดีจนสำเร็จมาหลายคดี แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคดีก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกล้องซีซีทีวีเพียงอย่างเดียว ต้องมีหลักฐานประกอบต่างๆ จึงจะทำให้สามารถสวบสวนสำเร็จได้ ดังนั้นต้องถือว่า กล้องซีซีทีวีเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ กทม.ตรวจสอบการใช้งานของกล้องซีซีทีวี กทม.นั้น พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า เป็นการสั่งการด้วยความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ในฐานะผู้บังคับบัญชาตามหลักการ คงไม่ใช่การจับผิดการทำงานของ กทม.แต่อย่างใด หากมีหนังสือสั่งการมา กทม.ก็จะส่งเรื่องชี้แจงไปให้ผู้บังคับบัญชาทราบถึงการทำงาน
ด้านนายทวีศักดิ์กล่าวเสริมว่า สำหรับกล้อง 4 จุดในพื้นที่เกิดเหตุที่ไม่สามารถใช้การได้ติดตั้งอยู่ในบริเวณแยกราชประสงค์ 1 ตัว ถนนสีลม 1 ตัว แยกนราธิวาสราชนครินทร์ 2 ตัว ซึ่งโดยปกติกล้องซีซีทีวี กทม.จะต้องได้รับการซ่อมบำรุง ตรวจสอบสภาพการใช้งานทุก 15 วัน และสามารถแก้ไขให้แล้วเสร็จได้ภายใน 1 วัน โดยกล้องซีซีทีวีแต่ละตัว จะมีอายุการใช้งานยาวนาน 6 ปี
“ปัจจุบันทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ มีกล้องซีซีทีวีทั้งสิ้น 41,000 ตัว และยังมีกล้องที่ติดตั้งใหม่เพิ่มเติม อยู่ระหว่างการบรรจบกระแสไฟฟ้าอีกจำนวนกว่า 2,000 ตัว ซึ่งติดตั้งตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งสิ้น 200-300 จุด โดยกล้องที่อยู่ระหว่างการบรรจบกระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี” ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม.กล่าวและว่า สำหรับคุณภาพกล้องซีซีทีวีของ กทม.ขอยืนยัยว่ากล้องทุกตัวมีคุณภาพเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยคุณภาพของภาพอยู่ที่ 5ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นการพัฒนาขึ้นตามเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ด้านนางเบญทรายกล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ได้ลงพื้นที่เกิดอย่างรวดเร็ว และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ กทม.ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างเต็มที่ ซึ่งกล้องซีซีทีวีของ กทม.ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนบริเวณอื่นๆ เช่น สถานนีรถไฟหัวลำโพง และโรงพยาบาลจุฬาฯ กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งก็จะเป็นของหน่วยงานนั้นๆ ทั้งนี้ผู้ว่าฯ กทม.ได้ประสานไปยังหน่วยงานอื่นๆ ที่มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวี หากมีการชำรุดเสียหาย สามารถขอความร่วมมือจาก กทม.เพื่อเข้าซ่อมแซมแก้ไขให้ได้