อดีต ส.ส. ปชป. เผยคุยกับหัวหน้า ปชป. แล้ว เห็นด้วยสอบปมกล้องซีซีทีวี กทม. รอเคลียร์กับ “ชายหมู” อีกที ฝากพิจารณาเป็นธรรม ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนของพรรคต้องดูด้วยว่าได้รับผลกระทบ ย้ำไม่กระทบภาพลักษณ์พรรคขัดแย้ง ย้ำไม่เกี่ยวคนของ “เทือก” บอก “วิลาศ” ก็มือขวา
วันนี้ (20 ต.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกล้องซีซีทีวีของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไม่มีประสิทธิภาพ ว่า วันนี้ตนได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหัวหน้าพรรคเห็นด้วยว่าจะต้องมีการตรวจสอบประสิทธิภาพและราคาของกล้องซีซีทีวี เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะเห็นว่าแนวทางแก้ไขปัญหาต้องพูดคุยกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และจะให้ นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ดูแลเรื่องกล้องซีซีทีวี ที่ตนไม่ไว้วางใจ ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ รับเรื่องและจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปคุยกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ว่าฯ จะปลดหรือไม่ รวมถึงพฤติกรรมของนางเบญทราย กียปัจจ์ รองโฆษก กทม. ที่ขาดวุฒิภาวะ จึงควรจำกัดบทบาทให้อยู่ในส่วนที่เหมาะสมอย่างสร้างปัญหาให้ กทม. อีกต่อไป และฝากให้ผู้ว่าฯ พิจารณาด้วยความเที่ยงธรรม อย่าหลงรูป รส กลิ่น เสียง เพราะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. เพราะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าทำงานไม่ดีพรรคก็ได้รับความเสียหายไปด้วย
“ถ้าหม่อมคิดว่าเป็นคนของพรรค ก็ต้องคำนึงถึงด้วยว่าพรรคจะได้รับผลกระทบ วันนี้ต้องยอมรับว่าประชาชนวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ กทม. แต่ผมขอวิจารณ์แค่เรื่องกล้องซีซีทีวี เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง กทม. มีนโยบายติดตั้งกล้องให้ครบแสนตัวภายในปี 2562 โดยใช้งบประมาณสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ติดตั้งได้ 5 หมื่นตัว แต่ก็มีปัญหาแล้ว” นายวัชระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนได้ส่งจดหมายถึง กทม. ขอสัญญาที่ กทม. ได้ทำสัญญาไว้กับบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบถึงชื่อบริษัท และยังไม่ได้รับคำตอบ ซ้ำรายบางคนใน กทม. ยังคิดไปว่าการให้สัญญากับตนเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งไม่เห็นว่าเป็นการเมืองตรงไหน ขนาดตนเป็นสมาชิกพรรคแท้ ๆ ยังไม่เปิดเผยสัญญา
เมื่อถามว่า พรรคตรวจสอบการทำงานของ กทม. ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. ก็มาจากพรรคเดียวกัน จะส่งผลถึงภาพลักษณ์ว่าเกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่ นายวัชระ ชี้แจงว่า เป็นประชาธิปไตยภายในที่เกิดขึ้น ความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ที่ตนออกมาเรียกร้องเพราะกล้องซีซีทีวีไร้ประสิทธิภาพ และประชาชนก็ออกมาร้องเรียนซึ่งเราไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้
ส่วนที่มองว่า สาเหตุที่ตรวจสอบการทำงานของพรรค เพราะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นคนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และมีกระแสข่าวว่ามีความพยายามจะสนับสนุนให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคแทนนายอภิสิทธิ์ นายวัชระ กล่าวว่า ไม่ใช่ความจริง เพราะนายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส. กทม. ซึ่งได้ร่วมตรวจสอบกับตนก็เป็นมือขวาของนายสุเทพเช่นกัน