xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ชี้ห้ามทีม “จ่านิว” ไปราชภักดิ์หวั่นปะทะ รับฉุนสื่อโหมข่าว จี้ตั้งหลักให้ถูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” แถลงเครียด แจงห้ามทีม “จ่านิว” ไปราชภักดิ์หวั่นมีปะทะ ย้ำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ติงสื่อทำไมต้องขยายความ จี้ทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบอย่าโหมจนตีกัน รับพวกขุดขุ้ยไม่รับอะไรทำอารมณ์เสีย ไล่ดู รบ.มีดีตั้งกี่เรื่อง ปลุกสื่อตั้งหลักให้ถูก ใครดีไม่ดีก็ต้องดีด้วย บ่นทีมข่าวการเมือง-คอลัมนิสต์เก่งจัง ติงบ้านเมืองจะล่มยังจะแขวะ รับโมโหแต่ไม่ถอย ขออย่าใช้คำกุ๊ยกับตน


วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยตลอดการแถลงข่าวใช้เวลาประมาณ 30 นาที พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้าเคร่งเครียดและเสียงดังตลอดเวลา และไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามในประเด็นใดๆ อย่างไรก็ตาม ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับว่าวันนี้ตนอารมณ์เสียแน่นอน ตั้งแต่เช้าแล้วในที่ประชุม ครม.ตนก็เป็นแบบนี้ แล้วทำไมตนจะแสดงอารมณ์ของตนเองไม่ได้หรืออย่างไร จะต้องให้อารมณ์ดีทั้งวันเลยหรือ ไปหากันมาเองแล้วกันนายกฯ อารมณ์ดี

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารขัดขวางและควบคุมนายสิริวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ หรือจ่านิว และกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาและแกนนำนักศึกษากลุ่มต่างๆ ที่กำลังจะเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์วานนี้ว่า

“รู้กันหรือไม่ว่าทำไมถึงห้ามไม่ให้เดินทางไปที่อุทยานราชภักดิ์ เพราะมีคนรอตีอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ที่ข้างล่างเรื่องนี้ทำไมไม่บอกหรือพูดให้เขารู้ หรือจะปล่อยให้เขาไปแล้วให้เขาโดนทำร้าย เป็นตายเจ็บมาแล้วรัฐบาลก็โดนอีก ผมถึงบอกว่าทำไมต้องไปขยายความขัดแย้ง ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าทุกวันนี้เราอยู่ในสถานะอะไร และรัฐบาลอยู่ระหว่างทำหน้าที่ในฐานะรัฏฐาธิปัตย์ ความหมายของผมคือนำทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และที่ผ่านมาอยากถามว่าเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ โครงการรับจำนำข้าว เข้าหรือไม่ ผมยังไม่ได้ทวงเลยแล้วก็ยังออกมาพูดกันอยู่ได้ มันอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เดี๋ยว สนช., ป.ป.ช.เขาก็ดูและสอบ ผมไม่ได้ไปห้ามอะไรเขา แล้วทำไมต้องไปขยายความ เอาคนที่ไม่เคยทำตามกฎหมายเอามาสู้กับผมอยู่ได้ หรือจะไม่มีหนังสือพิมพ์สักฉบับได้หรือไม่ เพราะใจดีไม่ได้ ผมไม่ได้ขู่ แต่ต้องดูว่าอนาคตจะต้องทำอย่างไรต่อไป ซึ่งยังไม่รู้ เป็นการพูดให้ฟังและนี่คือการให้อำนาจกับประชาชนให้ได้ข้อมูลข่าวสาร แต่พอให้ก็จะเอาเยอะ จะเอาแบบปกติ อยากถามว่าเวลาเลือกตั้งปกติได้รัฐบาลประชาธิปไตยมา แก้อะไรสักอย่างหรือไม่ อยากจะไม่สงบกันอีกหรือเปล่า สื่อก็ขยายความกันไปทุกวันสิ เดี๋ยวไปสิไป กลุ่มไหนอยากจะไปก็ไปเลยแล้วถ้ามันตีกันอีกที พวกท่านก็ไปห้ามกันแล้วกัน ผมไม่รับผิดชอบหรอก พอพูดอย่างนี้เดี๋ยวก็กลับมาอีกว่า พูดอย่างนี้แสดงว่าไม่รับผิดชอบ แล้วมันจะเอาอะไรจากผมมากกว่านี้วะ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้สื่อต้องทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ไม่ใช่อะไรก็โหมกันไปโหมกันมา จนวันนี้ประชาชนในพื้นที่เอากันอีกแล้ว รังเกียจไอ้พวกนี้ ถ้าไปเมื่อไหร่กูจะตีเมื่อนั้น จะฆ่ากันอยู่แล้ว สื่อก็ยังเขียนกันอยู่อีก “อยากจะไปก็ไปเถอะครับ รับผิดชอบตัวเองก็แล้วกัน ตำรวจเขาก็ดูไม่ไหวหรอก ในเมื่อท่านฝืนกฎหมาย ท่านก็ต้องรับผิดชอบกันเองบ้าง ใครผิดใครถูก ทั้งคนทำและคนถูกกระทำ ติดคุกทั้งคู่อยู่แล้ว ผมจึงไม่อยากให้เกิดอย่างไรเล่า จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อลดเหตุการณ์ตรงนี้ ทุกอย่างก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้วจะยังไง ไม่ไว้ใจหรือ ทำนิสัยเป็นพวกคนอีกพวกอยู่ได้ มันเคยรับอะไรหรือไม่เล่า ขุดคุ้ยอยู่ทุกวัน จนอารมณ์เสียอยู่อย่างนี้ แล้วบอกว่ารัฐบาลก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ เพราะเรื่องนี้จะเป็นสนิมเนื้อใน อยากถามว่าหนึ่งในกี่หมื่นเรื่องที่มันมีกรณีเช่นนี้ของรัฐบาล เรื่องดีๆ มีตั้งกี่เรื่อง ไปเทียบดูแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนไม่ค่อยเข้าใจสื่อเท่าไหร่ แต่คิดว่าทุกคนทำได้มากกว่านี้ เพราะทุกคนเป็นคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าท่านเข้าใจทั้งหมด วันนี้สื่อจะต้องเข้มแข็ง เพราะตนรู้ว่าสื่อส่วนใหญ่อยู่กับตน แต่สู้กับบรรดาหัวหน้าที่อยู่ข้างในไม่ได้ ตนไม่ได้ยุให้พวกท่านไปกบฏ แต่วันนี้ทุกคนต้องตั้งหลักให้ถูกว่าประเทศควรจะเดินต่อไปอย่างไร จะคบกับใครอย่างไร ใครดีกับเรา เราก็ดีด้วย ใครไม่ดีกับเรา เรายังต้องดีด้วยเลย เพราะเราอยู่ในโลกคนเดียวไม่ได้ ถ้าพวกท่านยิ่งทำอย่างนี้ตนไม่ต้องไปปิดอะไร เขาปิดให้พวกท่านกันหมด โดยเฉพาะเรื่องค้าขายแล้วจะอยู่กันอย่างไร มาโทษตนอีกสิ ต้องคิดใหม่กันเสียบ้าง มันจะได้ไปได้กันเสียที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอโทษว่า “วันนี้ต้องขอโทษที่เสียงดัง ไม่มีอะไร ปวดหัวไปหน่อย หลายวันมาแล้วที่ต้องเคลียร์ปัญหาของประเทศนี้ ตอนนี้อารมณ์ดีแล้ว แต่พอพูดก็หาว่าบ่น ผมเพียงแต่ต้องการชี้แจงปัญหา ชี้แจงการแก้ปัญหาและข้อความร่วมมือ แต่ทั้ง 3 ข้อก็ไม่ได้สักที ไม่เชื่อจะให้ผมเอาหนังสือพิมพ์มากางให้ดูหรือไม่เล่า ดูสิว่าของใคร หัวหนังสือพิมพ์ไหน ผู้จัดการ มติชน ข่าวสด ไทยรัฐ เดลินิวส์ บางคอลัมน์ เอาหรือไม่เล่า ไม่ต้องมาบอกให้ผมพอ ทีเวลาเขียนด่าผม ผมไม่เห็นว่าอะไรพวกท่านเลย ให้ความเป็นธรรมกับผมบ้างสิ ทีมข่าวการเมืองมันเก่งอะไรนักหนา มาเป็นนายกฯ สิ มาเลยไอ้พวกคอลัมนิสต์ต่างๆ สมัครเข้ามาเป็นรัฐมนตรี สมัครคราวหน้าผมจะเลือกให้ ปัดโธ่ คิดเป็นแต่ปัญหา คิดแต่ต้องการอะไร มีอยู่แค่นี้ แล้วก็ด่าคนอื่นเขาไปทั่วทั้งหมด แล้วมันใช่หรือไม่ แล้วประเทศจะเด้นหน้ากันได้อย่างไร วันนี้ถ้าประเทศเป็นปกติ ผมไม่ว่าเหมือนที่เขาเจริญแล้วมันถือเป็นเรื่องธรรมดา สื่อจะพูดอะไรก็พูดไม่มีใครไปยุ่ง วันนี้บ้านเมืองจะล่มอยู่แล้ว ยังจะมาพูดแบบนี้กันอยู่แล้วมันจะไปอย่างไร ข้าราชการก็ท้อแท้หัวใจ ส่วนผมไม่ท้อแท้อยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าโมโห แต่ไม่มีท้อแท้ ไม่มีถอยอยู่แล้ว สู้ทุกอย่างอยู่แล้ว พอพูดอย่างนี้ก็ไปเรียกมากันอีก ให้มาสู้กับผมอีกสิ หาว่าท้าทาย โว ปัด คำแบบนี้ไม่พูดไม่ได้หรือวะ การชี้แจงก็หาว่าโว คำพวกนี้ไปพูดกันในวงเหล้าเถอะ อย่ามาใช้กับผม ผมมีเกียรติ ไม่ใช่กุ๊ยที่ไหน ผมไม่ใช่กุ๊ย คำว่า โว ปัด ฟุ้ง อย่ามาใช้กับผม โดยเฉพาะคำว่า ฟุ้ง มันเป่าขี้เถ้าหรืออย่างไร”



กำลังโหลดความคิดเห็น