xs
xsm
sm
md
lg

“ประจิน” สั่งควานหาน้ำดิบป้อนโรงงานตะวันออกหวั่นวิกฤตรอบใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รัฐบาลเตรียมแผนแก้ปัญหาวิกฤตน้ำฝั่งตะวันออก สั่ง ควานหาน้ำดิบป้อน “โรงงานอุตสาหกรรมภาคตะวันออก” หวั่นน้ำขาดแคลน พบ 5 ปี โรงงานผุดเป็นดอกเห็ด เชื่อปีหน้าไม่แล้ง พบปัญหาใหม่ “สารระเหย” ในภาคอุตสาหกรมมาบตาพุด เน้น “สารอินทรีย์ระเหยง่ายบางตัว” ยังคงเป็นปัญหาของพื้นที่ สั่งกรมโรงงานเกาะติดสถานการณ์ ด่วน!

วันนี้ (6 ธ.ค.) มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี / รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้

มีมติที่สำคัญ 2 เรื่อง เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดระยอง ประกอบด้วย การแก้ปัญหาคุณภาพน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาในจังหวัดระยอง และการแก้ไขปัญหาสารอินทรีย์ระเหยง่ายในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ดังนี้

1. เห็นชอบแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำดิบสำหรับผลิตประปาระยอง โดยการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนปี 2559 มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินตามแผนปฏิบัติการเร่งด่วนที่ประกอบด้วย การกำกับดูแล/ติดตามเฝ้าระวัง การตรวจวัดคุณภาพน้ำ การปรับปรุงระบบท่อ การประชาสัมพันธ์ และการบำบัดน้ำเสีย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้น้ำ และเห็นชอบให้พิจารณาแนวทางการใช้น้ำดิบจากโครงข่ายระบบท่อส่งน้ำของบริษัท East Water หรือการใช้น้ำจากอ่างฯคลองใหญ่ เพื่อนำมาผลิตประปาระยอง โดยมอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาคเจรจากลุ่มบริษัท ยูยู กรุ๊ป คอนซอร์เตียม เพื่อให้ได้แนวทางร่วมกันภายใน 3 สัปดาห์ และขอให้แจ้งฝ่ายเลขานุการ เพื่อรายงานต่อประธาน กพอ. ต่อไป โดยให้เป็นแนวทางที่เกิดผลสัมฤทธิ์เร็วที่สุด ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

“ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรองรับความต้องการใช้น้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นภายใน 5 ปีข้างหน้า เพราะคาดว่าภาคอุตสาหกรรมและชุมชนจะขยายตัวมากขึ้น ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดระยอง และชลบุรี ล่าสุด กรมชลประทานแจ้งว่าจะไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับทุกภาคส่วน ทั้ง ชุมชน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม และรักษาระบบนิเวศ ตลอดฤดูแล้งปี 59”

2. เห็นชอบการแก้ไขปัญหาสารอินทรีย์ระเหยง่ายในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งสารอินทรีย์ระเหยง่ายบางตัวยังคงเป็นปัญหาของพื้นที่ แม้ว่าสารมลพิษทางอากาศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) โดยที่ประชุมมอบหมาย (1) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยส่งรายงานข้อมูลผลตรวจวัดการระบายสารอินทรีย์ระเหยง่าย ให้กรมควบคุมมลพิษ เพื่อนำมาวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและกำหนดมาตรการแก้ไขให้ตรงประเด็นปัญหา และ (2) จังหวัดระยอง พิจารณาแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาสารอินทรีย์ระเหยง่ายในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยมีองค์ประกอบจากผู้แทนจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน

“พบว่า ที่ปัญหาด้านมลพิษในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยองนั้น ล่าสุด ได้สั่งการกรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เร่งส่งรายงานข้อมูลผลตรวจวัดการระบายสารอินทรีย์ระเหยง่ายให้กรมควบคุม มลพิษ เพื่อนำมาวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา และกำหนดมาตรการแก้ไขให้ตรงประเด็นปัญหา เพราะปัจจุบันสารอินทรีย์ระเหยง่ายบางตัวยังคงเป็นปัญหาของพื้นที่ แม้ว่าสารมลพิษทางอากาศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ขณะเดียวกัน ยังมอบหมายให้ทางจังหวัดระยอง แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยมีองค์ประกอบจากผู้แทนจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน เข้ามาดำเนินงานร่วมกัน”

มีรายงานว่า ที่ประชุม ยัง รับทราบ 4 เรื่อง ประกอบด้วย

(1) แผนงานพัฒนาเส้นทางรถบรรทุกในทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งกรมทางหลวงจะดำเนินการในลักษณะ Share Lane ในช่องจราจรซ้ายสุดของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง และช่วงพัทยา-มาบตาพุด ซึ่งอยู่ระหว่างประกาศหาผู้รับจ้าง

(2) แผนบูรณาการการขนส่งสินค้าในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (ปี 2558 - 2564 เป็นต้นไป) ทั้งโครงข่ายถนนและระบบราง รวม 43 โครงการ ซึ่งโครงการในแผนระยะสั้นมีทั้งแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการเพิ่มช่องจราจรทางหลวงหมายเลข 3138 อ.บ้านบึง - อ.บ้านค่าย ตอน 1 และตอน 2 (แล้วเสร็จ) โครงการเพิ่มช่องจราจรทางหลวงหมายเลข 331 เนินผาสุก - มาบเอียง ตอน 1 และ ตอน 2 โครงการเพิ่มช่องจราจรทางหลวงหมายเลข 36 - บรรจบทางหลวงหมายเลข 3 สัตหีบ และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ตอนแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ตอน 1 - ตอน 3 เป็นต้น

(3) ความก้าวหน้าโครงการเร่งด่วนภายใต้แผนการแก้ไขปัญหามาบตาพุดอย่างครบวงจร จำนวน 8 โครงการ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 1 โครงการ คือ การตรวจสุขภาพและเฝ้าระวังโรคของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ ที่เหลือได้รับงบประมาณแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดพยูนและหาดน้ำริน อำเภอบ้านฉาง การก่อสร้างปรับปรุงถนน การพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลมาบตาพุด และโรงพยาบาลระยอง การจัดตั้งศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน และการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะจังหวัดระยอง ระยะที่ 2

(4) สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี ซึ่งกรมชลประทานแจ้งว่าจะไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับทุกภาคส่วน ชุมชน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม และรักษาระบบนิเวศ ตลอดฤดูแล้งปี 2559 อย่างไรก็ดี ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรองรับความต้องการใช้น้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นภายใน 5 ปีข้างหน้า อันเนื่องมาจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและชุมชนด้วย.


กำลังโหลดความคิดเห็น