xs
xsm
sm
md
lg

ยกเคส “เสรีพิศุทธ์” นายกฯ ใช้ ม.44 สั่งรื้อ 4 มาตรา พ.ร.บ.ตำรวจปี 47 แก้ปม ก.ตร.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยกเคส “เสรีพิศุทธ์” นายกฯ ลงนามใช้ ม.44 สั่งรื้อ 4 มาตรา “พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2547” แก้ปมอำนาจบอร์ด ก.ตร.-ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สกัดวิ่งเต้น แต่งตั้งโยกย้าย เพิ่มในกรณีที่ศาลปกครองมีคําพิพากษาถึงที่สุดสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขคําสั่งในเรื่องใด ให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาผู้มีอํานาจ ก.ตร. หรือ ก.ต.ช. แล้วแต่กรณี ในการสั่งการตามสมควรเพื่อเยียวยาและแก้ไขหรือดําเนินการตามที่เห็นสมควร

วันนี้ (4 ธ.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 44/2558 เรื่องการแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตํารวจ ดังนี้

“เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตํารวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความเป็นธรรม อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปในด้านการบริหารราชการแผ่นดินและกระบวนการยุติธรรม

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา ๓๒ เพื่อรักษาความเที่ยงธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตํารวจ ให้ ก.ตร. ออกกฎ ก.ตร. กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตํารวจไว้ให้ชัดเจนแน่นอน กฎ ก.ตร.ดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป”

ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๘/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตํารวจแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา ๕๓ การแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา ๔๔ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) และ (๖) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(๑) การแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา ๔๔ (๑) ให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตํารวจที่ดํารงตําแหน่งจเรตํารวจแห่งชาติหรือรองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ แล้วเสนอ ก.ต.ช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง

(๒) การแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา ๔๔ (๒) (๓) (๔) (๕) และ (๖) ให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตํารวจเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแล้วให้นายกรัฐมนตรีนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง มาตรา ๕๔ การแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งตั้งแต่มาตรา ๔๔ (๗) ลงมาในสํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง ส่วนในกองบัญชาการที่มิได้สังกัดสํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง

ในกรณีที่เป็นการแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งจากส่วนราชการหนึ่งไปอีกส่วนราชการหนึ่ง ให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทําความตกลงกัน แล้วให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติหรือผู้บัญชาการที่ประสงค์จะแต่งตั้งเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง”

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๕๖ แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา ๕๖ ในกรณีที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติเห็นว่าการใช้อํานาจในการแต่งตั้งของผู้บัญชาการไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร. กําหนดตามมาตรา ๕๗ หรือมีเหตุผลความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ข้าราชการตํารวจซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่มาตรา ๔๔ (๗) ลงมาพ้นจากพื้นที่หรือหน้าที่ หรือเห็นว่าหากดํารงตําแหน่งเดิมต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการหรือมีเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร. กําหนด ให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติมีอํานาจสั่งแต่งตั้งข้าราชการตํารวจให้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา ๔๔ (๗) ลงมา ได้ตามควรแก่กรณี”

ข้อ ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๐๕/๑ ของหมวด ๘ การอุทธรณ์ แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗

“มาตรา ๑๐๕/๑ ในกรณีที่ศาลปกครองมีคําพิพากษาถึงที่สุดสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขคําสั่งในเรื่องใด ให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาผู้มีอํานาจ ก.ตร. หรือ ก.ต.ช. แล้วแต่กรณี ในการสั่งการตามสมควรเพื่อเยียวยาและแก้ไขหรือดําเนินการตามที่เห็นสมควร”

ข้อ ๕ ให้ ก.ตร. ดําเนินการออกกฎ ก.ตร. เพื่อปฏิบัติตามคําสั่งนี้ ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ

ข้อ ๖ ในระหว่างที่ยังมิได้มีการออกกฎ ก.ตร. ตามข้อ ๕ ให้นํากฎ ก.ตร. ประกาศ มติหรือกรณีที่กําหนดไว้แล้วในส่วนที่เกี่ยวข้องซึ่งใช้อยู่เดิมมาใช้บังคับโดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคําสั่งนี้ จนกว่าจะมีกฎ ก.ตร. ตามข้อ ๕ ขึ้นใช้บังคับ

ข้อ ๗ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ”


กำลังโหลดความคิดเห็น