เจ้าหน้าที่นำสองผู้ต้องหาขอนแก่นโมเดล ฝากขังผลัดที่ 2 ด้านทีมทนายกลับลำไม่คัดค้านประกันตัว พร้อมแจ้งศาลทหาร ถูกตำรวจคุกคาม หลังแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกร้อง “นายกฯ-บิ๊กต๊อก-อธิบดีกรมราชทัณฑ์” 4 ประเด็น
ที่ศาลทหารกรุงเทพ เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (4 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัว จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ อดีตตำรวจตระเวนชายแดน และนายณัฐพล ณ วรรณ์เล กลุ่มขอนแก่นโมเดล ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาขออำนาจศาลทหารฝากขังผลัดที่ 2 เป็นเวลา 12 วัน
โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมการสื่อสารกันในสื่อโซเซียลเตรียมก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จัดกิจกรรมสำคัญต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด จนนำมาสู่การขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน ซึ่งจับได้แล้วรวม 5 คน คือ จ.ส.ตประธิน จันทร์เกศ, นายณัฐพล ณ วรรณ์เล, นายวัลลภ บุญจันทร์, นายพาหิรัณ กองคำ และนายฉัตรชัย ศรีวงษา และมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี คือ นายพิษณุ พรหมสร, นายมีชัย ม่วงมนตรี, นายวีรชัย ชาบุญมี ขณะที่นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม ทนายความแจ้งว่าอยู่ในการควบคุมของเรือนจำจังหวัดขอนแก่น
ก่อนหน้านั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายกลุ่มสิทธิมนุษยชน ในฐานะทีมทนายผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล กล่าวว่า ในวันนี้จะมาคัดค้านการฝากขัง 2 ผู้ต้องหาในผลัดที่ 2 เพราะเราไม่เชื่อในพยานหลักฐานที่มีและการออกหมายจับมีพิรุธหลายเรื่อง เช่น คนที่อยู่ในเรือนจำจะออกหมายจับได้อย่างไร นอกจากนี้ตนจะแถลงต่อศาลทหารว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปราม คุกคามทีมทนายความ ภายหลังที่เดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีลักษณะการโทรศัพท์มาตลอด และพยายามกักบริเวณทีมทนายที่เดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องหาที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มทบ.11 โดยกันทนายกออกจากกัน และให้พบผู้ต้องหาเพียง 5 นาที หลังจากนั้นก็มีการตามประกบและพยายามจะนำตัวทนายไปยังกองบังคับการปราบปรามและขอให้ถอนแจ้งความ
“เราไม่ได้มาหาเรื่องใคร แต่ต้องการบอกสังคมว่าเจ้าหน้าที่รัฐอย่ามาทำแบบนี้กับทนาย เพราะทนายก็ต้องทำหน้าที่ และเจ้าหน้าที่รัฐก็ทำหน้าที่ของรัฐ เรามาสู้กันในด้านกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยยุ่งเกี่ยวต่อกัน ซึ่งผมมองว่าถ้าทนายไม่ทำหน้าที่ดูแลประชาชนแล้วใครจะดูแล ส่วนรัฐก็ต้องมีกลไกทนายความ เข้ามาตรวจสอบความโปร่งใสด้วยเช่นกัน ไม่ใช่รัฐทำเองฝ่ายเดียว ตนจะแถลงประเด็นนี้ต่อศาลทหารด้วย พร้อมเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตา อยากให้มีความเมตตาในเรื่องนี้”
จากนั้นเวลา 10.30 น.เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัว จ.ส.ต.ประธิน จันทร์เกศ อดีตตำรวจตระเวนชายแดน และนายณัฐพล ณ วรรณ์เล กลุ่มขอนแก่นโมเดล ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กลับเรือนจำที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มทบ.11 นายวิญญัติกล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมทนายเปลี่ยนใจจะไม่คัดค้านการประกัน โดยจะปล่อยให้กระบวนสอบสวนดำเนินการต่อไป แต่ตนจะขอร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ใน 4 ประการ คือ 1. ทนายความชุดขอนแก่นโมเดล ถูกกระทำการคุกคามและบีบบังคับ พร้อมถูกขัดขวางการดำเนินการทำตามหน้าที่ จึงขอให้สอบสวนและสั่งการให้เป็นไปตามคำสั่งประกาศ คสช.ฉบับที่ 63/2557 ที่ว่าด้วยนโยบายกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้อำนวยความยุติธรรม และอำนวยความสะดวกให้กับทนายความในการดำเนินการ
2. เรียกร้องให้อธิบดีกรมราชฑัณฑ์ พิจารณา สั่งการ ให้ความอนุเคราะห์ ในการเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาที่เรือนจำพิเศษแขวงนครไชยศรี มทบ.11ในวันและเวลาทุกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับความสะดวก โดยอ้างไม่ได้รับอนุญาตและหตุผลความมั่นคงซึ่งมองว่าสิทธิที่ผู้ต้องหาจะเข้าถึงทนายถูกจำกัด
3. เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา ในคดีนี้รวมถึงคดีอื่นๆให้เข้าใจในการทำหน้าที่ของทนายความและปฏิบัติต่อผู้ต้องหาทุกคนในฐานะที่เป็นผู้บริสุทธิ์ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการ และ 4.ในฐานะตนเป็นทนายความ และเลขาฯ กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อมนุษยชน (กนส.) ที่ตั้งขึ้นไม่ได้มีเป้าประสงค์หรือจุดมุ่งหมายทางการเมือง หรือให้เป็นประเด็นทางการเมือง เราปฏิบัติตามกรอบกฎหมายทุกประการ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราเปิดเผยและเสนอต่อสื่อมวลชน สังคมในวันนี้ไม่ต้องการที่จะทำลายความเชื่อมั่นขององค์กรรัฐและเจ้าหน้าที่ เพียงแต่อยากให้ปฏิบัติในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง โดยเฉพาะทนายความที่เป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมต้องได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้อง