xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ไม่ตั้งทีมไต่สวนยังไม่พบทุจริต “สร้างอุทยานราชภักดิ์” - “บิ๊กจิ๋ว” ขออย่าเพิ่งตัดตอน รมช.กห.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสรรเสริญ พลเจียก
ป.ป.ช.ไม่ตั้งทีมไต่สวน เหตุยังไม่พบเข้าข่ายทุจริต “สร้างอุทยานราชภักดิ์” รอข้อมูล “กลาโหม-สตง.-กองปราบปราม” ให้ความชัดเจนก่อนตรวจสอบเชิงลึก หากพบใครทุจริตส่ง ป.ป.ช.ฟัน ลั่นพบเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตส่งให้ดำเนินการทันที ด้าน “บิ๊กจิ๋ว” ขออย่าเพิ่งตัดตอน “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” ออกจาก รมช.กลาโหม ชี้ต้องให้เวลารัฐบาลสอบ

วันนี้ (1 ธ.ค.) มีรายงานว่า ภายหลังองค์กรภายนอกที่จะเข้าไปตรวจสอบความโปร่งใสของการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ประกอบด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช. คณะกรรมการ สตง. และล่าสุดกองปราบปรามได้เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดการเบิกจ่ายงบฯ กลางของกองทัพบกจำนวน 63 ล้านบาท ตามที่มีผู้ร้อง โดยในวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้นำข้อมูลเบื้องต้นเข้าหารือในที่ประชุมใหญ่ ซึ่ง ป.ป.ช. กำหนดพิจารณาว่ามีอำนาจรับไว้พิจารณาหรือไม่ และถูกจับตาว่า ป.ป.ช.จะตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบและไต่สวนในกรณีดังกล่าวหรือไม่

ล่าสุด นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ออกมาเปิดเผยถึงมติที่ประชุมว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มอบหมายสำนักการข่าวของ ป.ป.ช.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ จนได้ข้อมูลภาพรวมทั้งหมดแต่ยังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวเข้าข่ายการทุจริต อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อทางกองบังคับการปราบปราม รวมทั้งกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบว่ามีการใช้งบกลางกว่า 63 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ขณะนี้ สตง.กำลังตรวจสอบว่าการใช้งบประมาณส่วนนี้ถูกต้องหรือไม่ ทั้งยังต้องตรวจสอบงบที่บริจาคให้แก่มูลนิธิราชภักดิ์ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงเห็นว่า ในเมื่อมี 3 หน่วยงานดังกล่าวกำลังตรวจสอบอยู่ ระหว่างนี้จึงได้มอบหมายสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ติดตามและประสานข้อมูลกับ 3 หน่วยงานดังกล่าวว่ามีเหตุอันใดที่ ป.ป.ช.ต้องรับเรื่องนี้มาดำเนินการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากทั้ง 3 หน่วยงานตรวจพบเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดก็ต้องส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ดำเนินการภายใน 30 วัน

ส่วนเหตุใดที่ผ่านมา ป.ป.ช.สามารถตรวจสอบคดีใหญ่ๆ ได้โดยไม่มีผู้ร้อง นายสรรเสริญกล่าวว่า ต้องปรากฏข้อเท็จจริงและเหตุอันควรสงสัย จึงจะถือเป็นหลักเกณฑ์ที่จะสามารถดำเนินการได้ แต่กรณีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อไต่สวน

กรณีนี้ขณะนี้มีผู้มาร้องเรียนเรื่องดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.แล้วหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้มาร้องเรียน ซึ่งหากจะร้องเรียนก็ต้องมีประกอบด้วยหลักเกณฑ์ว่า บุคคลที่ถูกร้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และมีพฤติกรรมทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือการกระทำการทุจริตหรือไม่ และต้องมีหลักฐานในเรื่องที่มาร้องเรียนด้วย จึงจะสามารถนำเข้าเรื่องเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้

ส่วนกรณีที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.การกลาโหม ออกมายอมรับว่า มีการหักค่าหัวคิวโรงหล่อจริง นายสรรเสริญกล่าวว่า ต้องดูว่าใครเป็นคนหักค่าหัวคิว เนื่องจากพบว่าบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นภาคเอกชนด้วย ส่วนกรณีกระแสข่าวเบิกงบประมาณจัดซื้อต้นไม้มาปลูกในพื้นที่อุทยานราชภักดิ์ว่ามีแพงเกินจริงนั้นจะต้องตรวจสอบว่างบส่วนนี้เป็นงบบริจาคหรืองบกลาง จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน

วันเดียวกัน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ความเห็นต่อการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าทุกคนคงต้องให้เวลา และการสอบต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่มากที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเข้าไปเกี่ยวพัน อีกทั้งยังเกี่ยวกับความเชื่อถือและศรัทธาของประชาชนที่ต้องระมัดระวัง และยังเกี่ยวกับประเทศชาติด้วย จึงต้องให้โอกาสรัฐบาลชี้แจงต่อประชาชน รวมทั้งทำการสอบสวนอย่างรอบคอบที่สุด ส่วนการที่รัฐบาลไม่กำหนดกรอบเวลาในการสอบสวนนั้น ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะคนที่ตั้งกรรมการสอบก็ต้องรับผิดชอบหากไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด

“ต้องให้เวลารัฐบาลสักพัก อะไรที่ไม่ถูกต้องทำให้ปรากฎออกมา จะปิดบังประชาชนไม่ได้ ทุกประเด็นที่สงสัยต้องชี้แจงให้ชัดเจนทั้งหมด เพราะทุกคนรอฟังผลสอบ และในเมื่อตอนนี้ยังไม่สรุปผลสอบออกมา โดยไม่มีใครรู้ว่าในการสอบสวนเรียกผู้รับผิดชอบ ผู้เกี่ยวข้อง และพยานเข้าไปแล้วจำนวนเท่าไหร่จากหลายฝ่าย ก็อย่าเพิ่งวิเคราะห์วิจารณ์ ควรให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ในขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ ต่อผู้รับผิดชอบโครงการราชภักดิ์” พล.อ.ชวลิตกล่าว

ส่วนกระแสเรียกร้องให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร และไปถึงใครบ้าง ดังนั้นอย่าเพิ่งไปตัดตอน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีทั้งเรื่องจริงและไม่จริงออกมา ส่วนจะไปบอกให้ลาออก คงไม่ถูกต้อง และไม่ยุติธรรมกับ พล.อ.อุดมเดช เพราะไม่ว่าใครก็ต้องการความยุติธรรม ไม่ใช่เอาความรู้สึกมาพูดกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น