“อุดมเดช” แจงทำงานโปร่งใสตั้งใจสร้างอุทยานราชภักดิ์ ข้อมูลทุกอย่างอยู่ใน ทบ. ไม่เคยหวังประโยชน์ รับไม่ค่อยสบายใจคนไม่เข้าใจ ผู้ไม่ปรารถนาดี ขอสื่อให้ความเป็นธรรม ย้ำรักษาศรัทธาผู้ร่วมบริจาค หวัง กก.ตรวจสอบนำข้อมูลมาชี้แจง ยันไม่ก้าวก่าย คงปฏิบัติหน้าที่ต่อ ปัดอยู่ยาว ไม่หนักใจให้ไขก๊อก ย้อนมีบางกลุ่มยิ้มยิงนกได้หลายตัว ทำสีขาวเป็นดำ ขอบคุณคนที่มีศรัทธา
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานมูลนิธิราชภักดิ์ กล่าวถึงกรณีปัญหาอุทยานราชภักดิ์ว่า คงไม่ลงรายละเอียดเพราะมีคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยกระทรวงกลาโหมคอยตรวจสอบแล้ว เพราะฉะนั้นควรจะคอยให้คณะกรรมการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน แต่อยากจะบอกว่าการทำงานของตนที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการทหารบกจนเกษียณ ยืนยันว่ามีความโปร่งใสและตั้งใจดีในการทำโครงการอุทยานราชภักดิ์ และตั้งแต่เกษียณอายุราชการจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.ก็ไม่ได้นำเอกสารอะไรติดตัวมา ดังนั้น การดำเนินงานทุกอย่างมีข้อมูลอยู่ในกองทัพบกอยู่แล้ว มีคณะกรรมการคอยดูแลทุกขั้นตอน ทุกคนตั้งใจทำงานและเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำและจุดประสงค์ที่ตั้งโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อให้คนไทยทุกคนหรือหรือแต่คนต่างประเทศมีสิ่งยึดเหนี่ยวและเป็นสมบัติของชาติ และเพื่อให้รำลึกสิ่งที่มีพระคุณต่อชาติอย่างใหญ่หลวง
“ผมไม่เคยหวังที่เอาประโยชน์อะไร เราไม่คิดที่จะหวังอะไรจากโครงการนี้ คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรที่จะให้โครงการนี้เดินหน้าไป แม้แต่ทุนทรัพย์ของเราเองหรือจากคนรู้จักที่จะมาบริจาคก็ดำเนินการกันมาด้วยความตั้งใจและโปร่งใส ผมเคยให้นโยบายกับผู้ใต้บังคับบัญชาขณะนั้นว่า การทำงานต้องทำให้เรียบร้อยที่สุด ต้องโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น วันนี้ถ้ามีสิ่งใดต่างๆ ที่ไม่เข้าใจหรืออาจจะบอกว่าเขาไม่ปรารถนาดีอย่างไรก็แล้วแต่ประชาชนจะคิดว่าขณะนี้เรื่องราวต่างๆ จะลงมาขนาดไหน เรื่องการเมืองต่างๆ จะมีหรือไม่อย่างไรทุกคนคิดได้ ก็ลองดูว่าเป็นยังไง ก็ลองดูว่าเป็นอะไรกัน แต่ก็ขอยืนยันว่าคณะกรรมการเขาดำเนินการมาด้วยความตั้งใจดี เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์สำหรับคนไทย และสำหรับผมเองไม่ได้หนักใจอะไร แต่ที่หนักใจและไม่ค่อยสบายใจก็คือ เกี่ยวกับเรื่องของคนที่ไม่เข้าใจ ผู้ที่ไม่ปรารถนาดีมาทำให้โครงการอุทยานราชภักดิ์ซึ่งมีความบริสุทธิ์เกิดความเสียหาย” พล.อ.อุดมเดชกล่าว
พล.อ.อุดมเดชกล่าวอีกว่า อยากขอร้องสื่อซึ่งที่ผ่านมามีสื่อบางสำนัก บางสถานีเสนอข่าวดี แต่บางสื่อก็มีการวิเคราะห์วิจารณ์วิพากษ์สิ่งต่างๆ โดยไม่เป็นธรรม ทำให้เกิดความเสียหายแก่คนทำงาน ทั้งๆ ที่ผ่านมาพวกเราซึ่งเป็นทหารและข้าราชการส่วนใหญ่ทำงานมาด้วยความตั้งใจ เราทำเพื่อสิ่งที่เรารักและหวงแหน ตนเองและทหารหลายคนก็เช่นเดียวกัน ตั้งแต่นายทหารยศชั้นเด็กจนถึงระดับสูงทำสิ่งเหล่านี้มามากพอสมควร สู้กับการจาบจ้วงสิ่งที่เรารักและเคารพมา เพราะฉะนั้นเราจะไม่มาเอาประโยชน์กับสิ่งที่เราทำ โครงการราชภักดิ์เป็นโครงการชิ้นหนึ่ง ชิ้นสุดท้ายที่ตนทำก่อนเกษียณอายุราชการ ตนระลึกเสมอว่ากองทัพบกในขณะนั้นมีศักยภาพที่จะทำอะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ เราไม่คิดเอาประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ เราตั้งใจทำสิ่งนี้ขึ้นมา จึงอยากให้ประชาชนได้รับทราบคนที่สนับสนุนหรือบริจาคไม่ว่าจะมากหรือน้อย เข้าใจดีว่าคนเหล่านี้มีความศรัทธา ตนก็จะพยายามรักษาศรัทธานั้นและเดินกันต่อไปให้สำเร็จ
พล.อ.อุดมเดชกล่าวอีกว่า ถ้าโครงการราชภักดิ์ยังไม่สำเร็จและตนเกษียณราชการก่อน และเชื่อว่าคนที่เขาบริจาคเงินเขาต้องตั้งข้อสังเกต จากนี้ต้องเป็นหน้าที่ของกองทัพบก แลละคณะกรรมการอุทยานราชภักดิ์ต้องช่วยดูแลให้สำเร็จลุล่วงต่อไป สำหรับตนเองตอนนี้รอคณะกรรมการที่ตรวจสอบ ที่แต่งตั้งมาจากส่วนทั้งกลาโหม สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็สามารถตรวจสอบได้ และคิดว่าการชี้แจงของกระทรวงกลาโหมครั้งนี้จะสามารถลงรายละเอียดสรุปในเรื่องต่างๆ ให้ประชาชนได้เข้าใจ ทั้งเรื่องของการรับเงินจ่ายเงิน หรือเหตุผลเรื่องราวต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกตและตั้งข้อสงสัย ตนหวังว่าทางคณะกรรมการจากกระทรวงกลาโหมจะสามารถสอบข้อมูลต่างๆ เหล่านั้น มาชี้แจงได้ในเวลาอันเหมาะสม และตนเองไม่ได้ลงไปก้าวก่ายอะไร ซึ่งการตรวจสอบเป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะต้องเลี่ยง อาจจะเรียกหน่วยงานต่างๆ มาชี้แจง
เมื่อถามว่าช่วงระหว่างการตรวจสอบยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามปกติ ซึ่งทุกคนในรัฐบาลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ขณะนี้ทุกคนต้องทำตามหน้าที่เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไป
“ไม่ต้องห่วงหรอก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่าพวกเราไม่มีอะไร นอกจากการทำงานให้สำเร็จลุล่วงไป เมื่อถึงวันเวลาทุกคนต้องไปไม่ช้าก็เร็ว ส่วนตัวผมเองทุกคนต้องไปไม่ช้าก็เร็ว และส่วนตัวผมเองก็ยังทำงานอยู่เรื่องราวต่างๆต้องพิจารณากันต่อไป แต่อยากให้เข้าใจว่าไม่เคยคิดที่หรือต้องการที่จะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่นี้ยาวนาน แต่อยู่เท่าที่จำเป็น” พล.อ.อุดมเดชกล่าวยืนยัน
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวมีกระแสกดดันให้ลาออก รมช.กลาโหมกล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะมั่นใจว่าเราคิดดีทำดี
“ขณะนี้อาจจะมีบางคน บางกลุ่ม นั่งยิ้มอยู่ก็ได้ว่าสิ่งที่เขาได้พยายามกระทำนั้นเหมือนกับยิงนกได้หลายตัว ก็ไปคิดดูแล้วกันว่าเราจะปล่อยให้สิ่งต่างๆ คนที่ตั้งใจจะทำสีขาวเป็นสีขาว กับคนที่ตั้งใจให้สีขาวเป็นสีดำ ถ้าสอบสวนเสร็จผมคิดว่าประเทศชาติก็อันตราย” พล.อ.อุดมเดชกล่าวย้ำ
รมช.กลาโหมกล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณสำหรับคนที่มีศรัทธา เพราะขณะนี้คนหัวหิน คนประจวบคีรีขันธ์ และคนจังหวัดใกล้เคียง ที่มีความรักและความศรัทธาต่ออุทยานราชภักดิ์ช่วยกันดูแล นักท่องเที่ยวและประชาชนต่างๆยังศรัทธา ที่หลั่งไหลไปเคารพบูชา แต่ข่าวคราวที่ออกมานั้นต้องเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ เพราะฉะนั้นตนจึงยังไม่พูดในรายละเอียดขณะนี้ปล่อยให้คณะกรรมการทำงานไปก่อน
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ากลุ่มคนที่นั่งยิ้มอยู่เป็นฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายทหาร พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ไม่ทราบตนไม่อยากจะพูด ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรกำลังกระโดดลงมาคงเป็นคนเหล่านั้น ก็ไปวิเคราะห์กันเอง ในส่วนของตนก็วิเคราะห์แต่ตนไม่สามารถจะไปร้ายใคร และจะไม่ให้ร้ายใครด้วย การทำงานในฐานะผู้บัญชาการทหารบกที่ผ่านมา ทำทุกอย่างด้วยความเรียบร้อย ช่วยรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้ขณะนั้น ทั้งการพูดคุยการปรองดองหรือแม้แต่สถานการณ์ในภาคใต้ก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทุกตนตั้งใจทำงานก็ขอให้กำลังใจกับคนที่ตั้งใจทำงาน สิ่งใดๆ ที่อยากรู้ขณะนี้ให้รอคณะกรรมการ และตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว เป็นเรื่องของกองทัพบกในยุคปัจจุบันต้องดูแลซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร ตนไม่ได้อะไรทั้งสิ้น แต่ทุกคนต้องมีความเป็นธรรมสิ่งที่ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันกล่าวมา ก็กล่าวมาด้วยความเป็นธรรมแล้ว และตนไม่ได้ไปพูดคุยอะไรกับท่าน ท่านเห็นอย่างไรก็พูดมาอย่างนั้น แต่ว่าอาจจะลงรายละเอียดไม่พอ ก็คงต้องอาศัยคณะกรรมการต่อๆไป โดยเฉพาะกรรมการที่มาจากหน่วยนอกต่างๆ ซึ่งผู้ใหญ่ก็พูดแล้วว่ายินดีที่จะให้เข้ามาตรวจสอบ