ปฏิกิริยาหลัง “จตุพร-ณัฐวุฒิ” ถูกทหารรวบตัวหลังจะไปอุทยานราชภักดิ์ให้เห็นกับตา “ภูมิธรรม” จี้ปล่อยตัว ชี้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล “วิรัตน์” เตือนรัฐบาลระวังถูกยั่วยุ หวั่นเข้าล็อคใครบางคน ต้องชี้แจงชัดเจน “วัชระ” เย้ยเอา “ภักดีหาญส์” ไปอยู่ด้วย เตือนเพื่อนรักสมัยพรรคศรัทธาธรรม รามคำแหง ถูกทักษิณหลอกใช้ทำไมไม่ฟัง ขนาดเก้าอี้รัฐมนตรียังชวด ผอ.สำนักสันติวิธี ส.พระปกเกล้าแนะรัฐพูดคุยละมุนละม่อม “สุนัย ผาสุก” ฟิวส์ขาด บอกทหารใช้อำนาจอะไร ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ซัดผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
วันนี้ (30 พ.ย.) จากกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถูกทหารมณฑลทหารบกที่ 16 จ.ราชบุรี ควบคุมตัวที่ตลาดมหาชัยเมืองใหม่ ถนนพระราม 2 ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.15 น. ที่ผ่านมา ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนลงพื้นที่โครงการอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเกิดการทุจริตและการแสวงหาประโยชน์ พบว่ามีปฏิกิริยาจากหลายฝ่าย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใย และเห็นว่าการที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวแกนนำ นปช.ทั้งสองคน และขัดขวางไม่ให้เดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์นั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ในการเดินทางไปตามที่ต่างๆ โดยสุจริต และอาจสร้างความไม่เข้าใจต่อสาธารณชนในภาพลักษณ์ของรัฐบาล ที่เสมือนเป็นการขัดขวางการเรียกร้อง และการแสวงหาความเป็นจริงในเรื่องข้อกล่าวหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการดังกล่าว
“ดังนั้น เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆคลี่คลายโดยรวดเร็ว ขอให้พิจารณาดำเนินการปล่อยตัวคุณณัฐวุฒิ และคุณจตุพรในทันที ก่อนที่เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์จะลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้ และเพื่อให้ปัญหาต่างๆ ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องและลดความอึดอัดของสังคมโดยเร่งด่วน ขอให้รัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง รีบดำเนินการจัดการแก้ไขข้อครหา เกี่ยวกับกรณีการทุจริตในอุทยานราชภักดิ์ และเร่งดำเนินการนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาลงโทษและแสดงความรับผิดชอบโดยพลัน” นายภูมิธรรมกล่าว
ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องระวัง ตั้งสติให้ดี เพราะกำลังเผชิญกับการยั่วยุให้เกิดการใช้กำลังในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นเครื่องมือของฝ่ายต้านรัฐบาล เพื่อให้เป็นข่าวออกไปทั่วโลก เหตุการณ์ที่เกิดกำลังเข้าทาง เข้าล็อคใครบางคน น่าจะมีผู้กำลังนั่งพอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ดังนั้นรัฐบาลโดยเจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงให้ชัดเจนถึงเหตุผลการควบคุมตัว คือข้อหาอะไร นำตัวไปไว้ที่ไหน
ส่วนเรื่องจะกระทบต่อการปรองดองหรือไม่ ตนมองว่า การปรองดองเกิดไม่ได้ เพราะแกนนำพวกนี้ไม่ต้องการปรองดองจริง มีกระบวนการสั่งการเขาอยู่อย่างเป็นขั้นเป็นตอน การปรองดองจึงไม่มีทางเกิดแน่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยบอกแล้วว่า จะปรองดองได้ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน แต่ยังมีบางกรณี เช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาโวยวายว่าถูกรัฐบาลกลั่นแกล้งอย่างนั้นอย่างนี้ ทีเรื่อง จีทูจี ที่เสียหาย กลับไม่ยอมออกมาบอกประชาชน แทนที่จะสำนึกกลับมาพูดหวังเอาชาวนามาเป็นพวก
ส่วนนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ คณะทำงานฝ่ายการเมืองพรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ตักเตือนตนนั้น นายภักดีหาญส์ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิด เพราะจุดยืนเราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตนพูดเพื่อรักษาและปกป้องผลประโยชน์และสถาบันของชาติ นายภักดีหาญส์นั่นแหละควรเอากระจกไปส่องหน้าตนเองดูว่าที่พูดทุกวันนี้นั้นรับใช้ใคร รักษาผลประโยชน์ของประเทศหรือไม่
ทั้งนี้ ที่แถลงว่าเครือข่ายหมิ่นสถาบันฯ หลายเครือข่ายเกี่ยวพันกับนายทักษิณนั้น เพราะหลายคนที่เป็นผู้ต้องหาหรือนักโทษในคดีหมิ่นสถาบันฯ ล้วนแต่เป็นเครือข่ายคนเสื้อแดงของนายทักษิณทั้งนั้น เช่น นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน เป็นผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชนคนรักทักษิณ, นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม ที่เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าขณะติดคุก นายทักษิณ ชินวัตร ส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน, จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ติดคุกเพราะคดีมาตรา 112 หรือแม้แต่นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้เพราะคดี 112 ใช่หรือไม่ หรือกรณีนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ที่ขึ้นเวทีเสื้อแดงแล้วทำผิดมาตรา 112 หนีไปต่างประเทศ นายภักดีหาญส์รู้หรือไม่
“พูดตามตรง แม้แต่นายทักษิณ ชินวัตร เองมีคดีหมิ่นมาแล้วกี่คดี แม้ว่าอัยการยุคนั้นสั่งไม่ฟ้องมาตลอดก็ตาม แต่ยังมีคดีสำคัญค้างอยู่ที่กองปราบปรามอีก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ไม่เร่งรัดคดีนายทักษิณหมิ่นมาตรา 112 ที่ค้างอยู่ที่กองปราบปรามบ้างหรือ หากนายทักษิณคิดว่าที่ตนพูดเป็นการหมิ่นประมาทก็ใช้สิทธิตามกฎหมายได้ทันที อย่าพิรี้พิไร ตนก็จะไปต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป แต่อย่ามาเล่นนอกกฎหมาย ไม่มีใครกลัวใคร ผมแนะนำนายภักดีหาญส์ให้รีบไปเยี่ยมนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ จะดีกว่ามาบอกคนของพรรคการเมืองอื่น และอย่าลืมเอามุ้งไปให้ด้วย เพราะยุงลายกำลังระบาดเกรงว่าจะเป็นไข้เลือดออก ฝากบอกนายจตุพรด้วยว่า เตือนแล้วทำไมไม่ฟัง นายทักษิณหลอกใช้ทั้งสิ้น ขนาดตำแหน่งรัฐมนตรีสัญญาแล้วก็ยังกล้าหลอกลวงเลย นายภักดีหาญส์จะกล้าไปบอกนายจตุพรหรือไม่” นายวัชระกล่าว
ขณะที่ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล แห่งสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า เป็นการแสดงสัญลักษณ์เปรียบเทียบในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ว่าโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์เกิดทุจริตจริงหรือไม่ สองแกนนำ นปช.คงอยากเร่งรัดคดี ตนมองว่าหากตรวจสอบเเล้วพบมีทุจริตจริง อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล
เมื่อถามว่า ถ้าควบคุมตัวทั้งสองแกนนำไว้นานจะกระทบเรื่องเเนวทางสันติวิธีของไทยต่อสายตาของนานาชาติหรือไม่ พล.อ.เอกชัยกล่าวว่า ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ไม่มีผลกระทบอะไร แต่เมื่อเป็นกฎหมายพิเศษ อาจเกิดผลกระทบบ้าง คราวนี้สองแกนนำน่าจะถูกจับข้อหาขัดคำสั่ง คสช.มากกว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไว้นานเกินไปด้วยกฎหมายพิเศษ อาจกระทบต่อสายตาของต่างชาติบ้าง เพราะทั้งสองคนก็ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สังคมจับตา ช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งอยู่ต่างประเทศด้วย รัฐบาลจึงควรพูดคุยอย่างละมุนละม่อม ชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนกับสองเเกนนำว่ากำลังทำตามขั้นตอนกฎหมายอยู่แบบไหน อย่างไร น่าจะไร้ปัญหา แล้วจึงปล่อยตัว
ขณะที่นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย ระบุผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @sunaibkk ว่า ทหารใช้เหตุผลและอำนาจอะไรในการควบคุมตัวนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ใครออกคำสั่ง นำตัวไปไว้ที่ไหน หลักประกันความปลอดภัยและสิทธิของทั้งสองคนมีหรือไม่ พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ระหว่างรวบตัวนายจตุพรและนายณัฐวุฒิ ทหารตะโกนใส่นักข่าวว่า “อย่าเสือก” ถ้าทหารไม่บอกว่าเอาตัวนายจตุพรและนายณัฐวุฒิไปไว้ที่ไหนก็จะถือว่ากรณีนี้เป็นการควบคุมตัวโดยพลการ และบังคับให้สูญหายซึ่งผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
