รายงานการเมือง
เปิดฉากรบทั้งใต้ดิน - บนดิน เต็มรูปแบบอีกครั้ง หลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไฟเขียวให้ทุกองคาพยพรุกไล่ “นช.แม้ว” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้จนกระดานการเมืองกันไปข้าง
เริ่มตั้งแต่การยกเลิกหนังสือเดินทางของประเทศไทยทุกฉบับที่ “นช.แม้ว” ถืออยู่ เพื่อจำกัดวงไม่ให้เคลื่อนไหวในต่างแดนได้ง่ายนัก เพราะแม้จะมีพาสปอร์ต “มอนเตเนโกร - นิการากัว” แต่ใช้เดินทางได้สะดวกน้อยกว่าพาสปอร์ตไทย
ต่อด้วยการตั้งข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งจะถือเป็นตราบาปที่ติดตัว “นช.แม้ว” ไปตลอด จะมาอ้างว่าจงรักภักดีอีกคงยาก
ซ้ำดาบสามด้วยการถอดยศทางราชการ ที่อาจจะทำให้คำหน้านามของ “นช.แม้ว” ที่เคยติดยศพันตำรวจโท เหลือแค่ “นาย” เหมือนสามัญชนคนธรรมดา แม้จะชอบทำตัวใหญ่โตกว่าคนอื่นมาเสมอ
ทว่า การถอดยศ “นช.แม้ว” อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะยังมีอีกหลายขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการ แม้ “บิ๊กตู่” จะไฟเขียวพร้อมทำตาม หาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เสนอมา
แต่วลีลอยลม ของ “บิ๊กอ๊อด” ที่บอกว่า “ผมมีนาย 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร” หมายถึงการส่งนัยยะไปยัง “ผู้มากบารมี” ที่ไม่ใช่เพียงแค่ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ชอบออกมาจี้ให้เร่งดำเนินการถอดยศ “นช.แม้ว” หรือไม่
ประกอบกับมีการปล่อยข่าวจนลือกันให้แซดว่า “นช.แม้ว” ขอวีซ่าเดินทางเข้าไปยังประเทศเยอรมนี โดยอ้างว่าเพื่อขอชมการแข่งขันฟุตบอลยูฟา แชมเปียนลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่เมืองเบอร์ลิน แต่ทางการเยอรมนีกลับไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ ทั้งที่พาสปอร์ต “มอนเตเนโกร” สามารถใช้เดินทางเข้าเยอรมนี ได้อย่างง่ายดาย
ข่าวลือดังกล่าวทำให้ “หน่วยงานความมั่นคง” ไล่เช็กกันวุ่น เพราะหาก “นช.แม้ว” เดินทางเข้าประเทศเยอรมนีได้ เป้าหมายของ “นช.แม้ว” ไม่ใช่แค่การดูฟุตบอลนัดหยุดโลกเท่านั้น แต่เป็นที่รู้กันว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อเดินทางไปขอพบ “ใครบางคน”
มาผสมกับสัญญาณแรงๆ จากปาก “บิ๊กอ๊อด” ที่มีนายแค่ 2 คน แล้ว ยิ่งจินตนาการกันไปใหญ่ว่า “นช.แม้ว” อาจจะเดินเกมลับ - เดินเกมแรง รุกเข้าใส่ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ด้วยคอนเนกชันที่ไม่ธรรมดา ยิ่งกว่า “ซูเปอร์คอนเนกชัน” เสียอีก
ทว่า สุดท้ายแล้วไล่เช็กกันจนถึงบางอ้อ ว่า เป็นแค่ “ข่าวเก่า” ที่ถูกใครบางคนจงใจปล่อยออกมา เพื่อหวังผลทางคดีถอดยศ - คดี ม.112 และอีกหลายคดีที่พัวพันอยู่กับ “ตระกูลชินวัตร”
เป็นความจงใจที่ต้องเช็คปฏิกิริยาของ “รัฐบาลบิ๊กตู่ - ขุนทหาร” ทุกองคาพยพเช่นกัน เหมือนที่พยายามปล่อยข่าวมั่ว โยงสายสัมพันธ์อันดีของ “นช.แม้ว” กับราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย
จากนี้สัญญาณการเมืองทั้งข่าวลือ - ข่าวหลอก ที่ทั้งสองขั้วจงใจปล่อยใส่กัน มีนัยสำคัญอย่างยิ่งในการวางหมากของอีกขั้วหนึ่ง จากนี้ไปทุกสัญญาณที่ถูกส่งออกมาจะถูกจับตามากเป็นพิเศษ
แต่ที่ต้องไม่ใช่แค่จับตา แต่ต้องไล่บี้จับให้ได้ คือ บรรดา “ผู้ร้าย” ในคดีหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่หลบหนีอยู่นอกประเทศ
โดยคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่มี “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา นั่งเป็นประธาน กำลังรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปชี้แจงประเทศที่ “นักโทษ” ใช้หลบหนี เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศให้ได้
รายนามนักโทษ คดี ม.112 คุ้นหูคุ้นตากันดี 31 ราย โดยแบ่งเป็นประเทศที่ซุกหัวอยู่ดังนี้
ประเทศลาว จำนวน 14 ราย ประกอบด้วย 1. นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ 2. นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน 3. นายอิทธิพล สุขแป้น หรือ ดีเจเบียร์ แกนนำเสื้อแดงเชียงใหม่ 4. นายวัฒน์ วรรลยางกูร 5. นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี 6. นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ หรือ ชีพ ชูชัย 7. นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล หรือ หนุ่ม เรดนนท์ 8. นายพิพัฒน์ พรรณสุวรรณ 9. นายนิธิวัต วรรณศิริ 10. นายชฤต โยนกนาคพันธุ์ หรือ โยนก ไฟเย็น 11. นายชัยอนันต์ ไผ่สีทอง หรือ อุ๊ ไฟเย็น 12. นายไตรรงค์ สินสืบวงศ์ หรือ ขุนทอง ไฟเย็น 13. นางสุดา รังกุพันธุ์ หรือ อาจารย์หวาน 14. นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1. นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน 2. นายเสน่ห์ ถิ่นแสน หรือ เพียงดิน 3. นายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน 4.นายริชาร์ด สายสมร 5. นายจุติเทพ (เลอพงษ์) วิไชยคำมาตย์ หรือ โจ กอร์ดอน
ประเทศกัมพูชา 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายพิษณุ พรหมศร 2.นายจักรภพ เพ็ญแข 3. นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ประเทศออสเตรเลีย 1 ราย คือ นายองอาจ ธนกมลนันท์ ประเทศนิวซีแลนด์ 1 ราย คือ นายเอกภาพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาซีวะ ประเทศญี่ปุ่น 1 ราย คือ นายปวิณ ชัชวาลพงศ์พันธ์ ประเทศฝรั่งเศส 1 ราย คือ นายจรัล ดิษฐาภิชัย ประเทศสเปน 1 ราย คือ นายอิมิลิเอ เอสเทแบบ ประเทศฟินแลนด์ 1 ราย คือ นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ ประเทศแคนาดา 1 ราย คือ พ.ต.อ.หญิง ณหัทย ตัญญะ
หากไล่เช็กดูแล้ว ไม่แปลกที่ “ลาว” จะถูกยึดเป็นหัวหาดในการเคลื่อนไหวของ “นักโทษ 112” เพราะบรรดาตัวอุบาทว์เหล่านี้ โดนรุกไล่จาก ประเทศกัมพูชา ที่ระยะหลัง “นายกฯ ฮุนเซน” ผู้นำกัมพูชา มีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล โดยเฉพาะกับ “บิ๊กป้อม” ที่มีข่าวว่าเดินแผนธุรกิจชายแดนกันหลายโปรเจกต์ อีกทั้งต้องยอมรับว่า “ลาว” ยังเป็นประเทศคอมมิวนิสต์มาก่อน และยังคงนิยมคอมมิวส์นิสต์อยู่ จึงเป็นแหล่งรวมของบรรดา “นักโทษ 112” ที่ไปสุมหัวกันอยู่
ว่ากันว่า รัฐบาลบิ๊กตู่ ส่งทหารมือดีเข้าไปในลาว เพื่อสืบหาตัว “นักโทษ 112” มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่กลับมีทางการลาว แจ้งให้ “นักโทษ 112” ไหวตัวทัน ทำให้หนีย้ายเมือง - ย้ายฐานกันทัน จึงไม่สามารถจับกุมตัวได้
หลังจากนี้ “บิ๊กต๊อก” สั่งการให้ หน่วยงานความมั่นคง รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปชี้แจงกับทุกประเทศที่ “นักโทษ 112” ใช้หลบหนี โดยเฉพาะลาว ที่ต้องทำความเข้าใจมากเป็นพิเศษ ก็คือ การจำแนกฐานความผิดของ “นักโทษ 112” แต่ละคนอย่างละเอียด ก่อนจะเจรจาต่อรองกัน หากมีสิ่งของ - ความร่วมมืออะไรพอจะแลกได้ ก็จะแลกกัน
และหาก “นช.แม้ว” มีความผิดในคดี 112 กลายเป็น “นักโทษ 112” ที่จะโดนรัฐบาลบิ๊กตู่ไล่บี้ได้ง่ายขึ้น เพราะได้ตระเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นแม่งาน
การเมืองชั่วโมงนี้เปิดหน้ารบกันอีกครั้ง เป็นการรบที่มีเดิมพันสูงลิบ เป็นเดิมพันผ่าน “ผู้มีอำนาจ” ในทุกสารบบ เกมแย่งชิงอำนาจ เคาะระฆังเริ่มชก