“ไก่อู” เผย “ประยุทธ์” ห่วงเกษตรกรปลูกข้าวนาปรัง เสี่ยงขาดแคลนน้ำ สภาวะอากาศโลกแปรปรวน หลังแห่กันปลูกเพียบ อยากให้บริหารความเสี่ยงปลูกพืชชนิดน้ำน้อยแทน สร้างรายได้มั่นคงครัวเรือน
วันนี้ (30 พ.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการปลูกพืชฤดูแล้งโดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปรังซึ่งอาจเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำเพื่อการเพาะปลูก เนื่องจากปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนหลักยังคงอยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง และสภาวะอากาศโลกยังคงแปรปรวน
“มีรายงานว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตชลประทาน และนอกเขตชลประทาน โดยขณะนี้ประมาณการว่ามีการปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศแล้ว 1.538 ล้านไร่ แยกเป็นในเขตชลประทาน 1.462 ล้านไร่ และนอกเขตชลประทานอีก 76,000 ไร่ หากยังมีอัตราการเพิ่มอย่างรวดเร็วต่อไป พี่น้องเกษตรกรบางพื้นที่อาจจะเสี่ยงต่อพื้นที่การเพาะปลูกเสียหายเพราะขาดแคลนน้ำ ขณะที่การปลูกพืชไร่พืชผักทั่วประเทศมีพื้นที่รวมกันประมาณ 157,000 ไร่”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีอยากเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และการบริหารความเสี่ยงด้วยการปลูกพืชหลายชนิด เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ตะไคร้ มะนาว และพืชสมุนไพรต่างๆ ที่ตลาดยังมีความต้องการสูง ขายได้ราคาดี เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยกว่าการปลูกข้าว อายุการเพาะปลูกสั้น รวมทั้งให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้และกระจายความเสี่ยงของครัวเรือน
“คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ปลูกข้าว เพราะประเทศไทยคือผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ปลูกข้าวเลี้ยงคนไทยและพลเมืองโลกมาช้านาน รวมทั้งข้าวไทยถือเป็นข้าวคุณภาพชั้นยอด ชาวนาไทยคือผู้ทรงภูมิปัญญาในการเกษตรที่สืบทอดมานับร้อยๆ ปี แต่ด้วยปัจจัยภายนอกที่ไม่เอื้ออำนวย เชื่อว่าพี่น้องเกษตรกรชาวนาไทยจะเลือกวิธีปรับสัดส่วนพื้นที่เพาะปลูกให้มีพืชหลายชนิดผสมผสานกัน และสมดุลกับปริมาณน้ำซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญที่สุด เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ครัวเรือนต่อไป”