อบจ.อุบลฯ บุกสภายื่นหนังสือรองประธาน สปท. สอบ 3 บริษัทปล่อยน้ำเน่าเสียทำประชาชนเดือดร้อน ทรัพยากรธรรมชาติเสียหาย ชี้การจัดแผนผังบำบัดน้ำเสียไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปิดกั้นการสัญจรกระทบการดำรงชีพคนในพื้นที่
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.50 น. ได้มีกลุ่มสมาชิกสภาองค์กรการบริหารส่วนจังหวัดอุบุลราชธานี นำโดยนายปรเมษฐ์ ศรีหล้า พร้อม สอบจ. รวม 8 คน เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท.ช่วยดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการของกลุ่มบริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด, บริษัท เกษตรพัฒนา จำกัด และบริษัท อุบลไบโอก๊าซ จำกัด
นายปรเมษฐ์กล่าวว่า เนื่องสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีในพื้นที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของกลุ่มบริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด บริษัท เกษตรพัฒนา จำกัด และบริษัท อุบลไบโอก๊าซ จำกัด ตั้งอยู่ที่ อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกลุ่มบริษัทดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวยังได้ถมดินและก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียทับแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ซึ่งเป็นลำห้วยสาขาของแม่น้ำลำโดมใหญ่ อันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำจืด และแหล่งระบบนิเวศที่สำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ ห้วยคำผักย้า มีการถมดินทับลำห้วย และก่อสร้างอาคารจนชิดติดแนวลำห้วย ห้วยคำค่า มีการถมดินรุกล้ำลำห้วย ลำห้วยคำนางอ้วน และร่องคำงูเหลือม ได้ถูกขุดเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียทำให้ที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนได้ใช้ร่วมกันและทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันได้รับความเสียหายประชาชนไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป และการที่ถูกขุดเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานขาด ทำให้น้ำล้นออกมาจนไหลลงสู่แม่น้ำลำโดมใหญ่ เนื่องจากบ่อบำบัดน้ำเสียสร้างบนทางน้ำไหลตามธรรมชาติที่เชื่อมกับแม่น้ำลำโดมใหญ่ ซึ่งการจัดวางแผนผังระบบบำบัดน้ำเสียดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายปรเมษฐ์กล่าวต่อว่า กลุ่มบริษัทดังกล่าวได้ทำการทำลายหรือทำให้เสียหายทางสาธารณะประโยชน์ 1 เส้นทางโดยได้ก่อสร้างเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียทำให้ทางสาธารณะประโยชน์มีสภาพน้อยลงกว่าเดิม นอกจากนั้นยังได้ปิดกั้น ทางสาธารณะประโยชน์ในหลายเส้นทางที่ตั้งอยู่บริเวณที่ดินของบริษัทโดยการล้อมรั้วติดตั้งป้ายห้ามประชาชนเข้า ไปใช้ประโยชน์เหมือนเช่นที่เคยได้ใช้สัญจรในอดีตร่วมกันจำนวน 3 จุด ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางไปมาระหว่างกันและการสัญจรไปมาเพื่อดำรงชีพเช่น การเก็บผัก หาของป่า
ด้านนายอลงกรณ์กล่าวว่า ตนจะรับเรื่องดังกล่าวไปให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อจะศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยินดีที่จะรับข้อเสนอของประชาชน และเป็นนโยบายอยู่แล้วที่จะเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศที่ได้ผลสัมฤทธิ์