นายกรัฐมนตรีถกทวิภาคีประธานาธิบดีโคลอมเบีย จ่อขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมลงทุนการท่องเที่ยว พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ หนุนตั้งสภาธุรกิจร่วม ศึกษาความเป็นไปได้ทำ FTA ตั้ง กมธ.ร่วมระดับ รมต.ต่างประเทศ แลกเปลี่ยนความร่วมมือกองทัพ ปราบยาฯ ต้านอาชญากรรม การศึกษา ขอบคุณหนุนไทยเป็นผู้สังเกตุการแปซิฟิก ยันสยามมีเสถียรภาพ ด้าน ปธน.เชิญเยือนประเทศ ชมประสบความสำเร็จท่องเที่ยว
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ชั้น 27 โรงแรมไดมอนด์ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เมื่อเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายฆวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีสาธารณรัฐโคลอมเบีย ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ เอเปก ครั้งที่ 23 โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร่วมหารือด้วย
ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีที่ได้พบและแสดงความพร้อมที่จะขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความมั่นคง ความร่วมมือทางเทคนิค การท่องเที่ยว และการศึกษา โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนโคลอมเบียอย่างเป็นทางการในโอกาสแรกที่สะดวก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจว่า ไทยพร้อมส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับโคลอมเบียในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติ โดยขอเชิญชวนผู้แทนภาคธุรกิจโคลอมเบียเยือนไทยด้วย รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-โคลอมเบีย นอกจากนี้ การทำ FTA กับโคลอมเบียในอนาคต ไทยพร้อมศึกษาความเป็นไปได้และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิค เพราะไทยมองว่า โคลอมเบียมีศักยภาพในการเป็นสะพานเชื่อมไทยกับประเทศกลุ่มลาตินอเมริกา ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโคลอมเบียก็เล็งเห็นความสำคัญและศักยภาพของประเทศไทย ที่จะเป็นเหมือนประตูและสะพานเชื่อมโคลอมเบียกับอาเซียนเช่นกัน
พล.ต.วีรชนกล่าวว่า ไทยเห็นควรให้มีการยกระดับความสัมพันธ์ โดยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งฝ่ายไทยได้ส่งร่างบันทึกความตกลงที่จะจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมให้ฝ่ายโคลอมเบียพิจารณาแล้ว ส่วนความร่วมมือด้านความมั่นคงกับโคลอมเบีย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และสถาบันป้องกันประเทศของโคลอมเบีย รวมทั้งความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งโคลอมเบียมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ประธานาธิบดีโคลอมเบียเห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในลักษณะคลัสเตอร์ และ Thailand +1 ซึ่งแนวความคิดของนายกรัฐมนตรีจะยิ่งทำให้แพกเกจการท่องเที่ยวมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือน เพื่อศึกษาลู่ทางความร่วมมือ ขอชื่มชมประเทศไทยประสบความสำเร็จในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ ไทยและโคลอมเบียเห็นพ้องในการขยายความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น ความร่วมมือการต่อต้านอาชญากรรม ส่วนด้านการศึกษา ไทยพร้อมที่จะส่งเสริมเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัยรัฐของไทยและโคลอมเบีย รวมทั้งสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในโคลอมเบีย และขอบคุณ ในฐานะตัวแทนรัฐบาล และประชาชนไทย ที่โคลอมเบียให้การสนับสนุนไทยให้เป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก และเชื่อมั่นว่าไทยจะสามารถเป็นสามารถเชื่อมที่สำคัญระหว่างอาเซียนกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก โดยเฉพาะในปี 2559 ที่ไทยจะเป็นผู้ประสานงานฝ่ายอาเซียน นอกจากนี้ในฐานะประธานของกลุ่ม G77 วาระปี 2559 ไทยพร้อมประสานงานและผลักดันผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาอย่างเต็มความสามารถ
“นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงสถานการณ์การเมืองไทยโดยขอบคุณโคลอมเบียที่เข้าใจสถานการณ์ โดยไทยยังคงยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยพร้อมยืนยันว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเสถียรภาพ และมีบรรยายที่เกื้อกูลต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ” พล.ต.วีรชนกล่าว