“กรรมการการเลือกตั้ง” เผยดำเนินคดีให้ชดใช้ค่าเสียหายเลือกตั้งตั้งแต่ปี 43-58 รวม 697 คดี เป็นคดีเรียกค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. รวม 153.2 ล้านบาท แต่ทวงได้แล้ว 41.6 ล้านบาท และคดีเลือกตั้งท้องถิ่นอีกกว่า 37.2 ล้านบาท ระบุเพิ่งปฏิเสธคำร้องของผู้สมัคร ส.อบจ.นครศรีธรรมราช หลังขอผ่อนเดือนละหมื่นรวม 26 ปีแถมไม่คิดดอกเบี้ย
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและผู้สมัครซึ่งกระทำผิดให้ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ ทั้งการเลือกตั้งระดับชาติ และการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ระหว่างปี พ.ศ. 2543–2558 ได้มีการดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 697 คดี มีมูลค่าฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้รับผิดจำนวนเงินร้อยกว่าล้านบาทประกอบด้วย 1. คดีฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งส.ส.และการเลือกตั้ง ส.ว. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ทั้งหมด 12 คดี ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2554 จำนวนเงินที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย รวมจำนวนทั้งสิ้น 153,271,337.04 บาท ได้รับชำระมาแล้ว จำนวน 41,613,600.95 บาท
2. คดีฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ทั้งหมด 685 คดี ระหว่างปี พ.ศ. 2546-2558 รวมเงินที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 37,257,646.14 บาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ได้จากการผ่อนชำระ ก่อนคดีถึงที่สุด จำนวน 9,581,486.98 บาท และเงินที่ได้รับชำระเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว จำนวน 27,676,159.16 บาท
ทั้งนี้ ในการฟ้องร้องให้ผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่นั้น ล่าสุดที่ประชุม กกต.ได้มีการพิจารณากรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชรายหนึ่งซึ่งถูกฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชใหม่ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 3,238,466 บาท โดยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ.รายดังกล่าวได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ไม่ต้องคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งขอผ่อนชำระค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ เดือนละ 10,000 บาท แต่ กกต.เห็นว่าดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้สามารถเรียกได้ตามกฎหมาย และการไม่เรียกดอกเบี้ยอาจทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องเสียประโยชน์ รวมทั้งเมื่อพิจารณา ถึงระยะเวลาที่ต้องใช้ในการผ่อนชำระแล้วเป็นเวลานานถึง 26 ปี ถึงจะชำระเสร็จ ที่ประชุม กกต.จึงมีมติไม่รับคำขอประนีประนอมยอมความ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีหนังสือแจ้งให้ผู้สมัคร ส.อบจ.รายดังกล่าวทราบต่อไป
“กรณีดังกล่าวผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจะต้องชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ โดย กกต.ก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของสำนักงาน กกต. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งก็จะต้องถูกดำเนินคดีและไม่อาจปฏิเสธการชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ ดังนั้น อยากให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องพึงตระหนักเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วย” นายสมชัยกล่าว
สำหรับการฟ้องร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น ศาลอุทธรณ์ ภาค 8 ได้พิจารณาและมีมติเมื่อวันที่26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามมติกกต.ที่ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือให้ใบแดง นายมาโนช เสนพงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2558 ในข้อหาจัดเลี้ยงกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่ร้านอาหารครัวอันดามัน ถนนเทิดพระเกียรติ อ.เมืองนครศรีธรรมราช และข้อหา รถแห่ป้ายรณรงค์หาเสียงโฆษณาของนายมาโนช ได้ประกาศว่านายมาโนช สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และข้อหานายปิยะวัฒน์ เกตุแก้ว ประธานสาขาพรรค ปชป.และพวกแจกเงิน 2,000 บาทให้กับสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไปซื้อเสียง
พร้อมกันนั้น ได้สั่งกกต.ให้มีการเลือกตั้งใหม่ หลังจาก ก.ม.รัฐธรรมนูญฉบับเสร็จสิ้น และสั่งให้นายมาโนช ชดใช้ค่าจัดการเลือกตั้งใหม่ ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นอีกด้วย
