นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และผู้สมัครซึ่งกระทำผิดให้ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ ทั้งการเลือกตั้งระดับชาติ และการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2558 ว่า กกต.ได้มีการดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 697 คดี มีมูลค่าฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้รับผิดจำนวนเงินร้อยกว่าล้านบาท ซึ่งแยกเป็นคดีฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ทั้งหมด 12 คดี ระหว่างปี พ.ศ.2543-2554 จำนวนเงินที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย รวมจำนวนทั้งสิ้น 153,271,337 บาท ได้รับชำระมาแล้วจำนวน 41,613,600 บาท
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนคดีฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มีทั้งหมด 685 คดี ระหว่างปี พ.ศ.2546-2558 รวมเงินที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย จำนวนทั้งสิ้น 37,257,646 บาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ได้จากการผ่อนชำระก่อนคดีถึงที่สุด จำนวน 9,581,486 บาท และเงินที่ได้รับชำระเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว จำนวน 27,676,159 บาท
ทั้งนี้ กกต.ยืนยันว่าผู้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และไม่อาจปฏิเสธการชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ รวมทั้งไม่สามารถขอความอนุเคราะห์ไม่ต้องคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ได้ ดังนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องพึงตระหนักเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนคดีฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มีทั้งหมด 685 คดี ระหว่างปี พ.ศ.2546-2558 รวมเงินที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย จำนวนทั้งสิ้น 37,257,646 บาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ได้จากการผ่อนชำระก่อนคดีถึงที่สุด จำนวน 9,581,486 บาท และเงินที่ได้รับชำระเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว จำนวน 27,676,159 บาท
ทั้งนี้ กกต.ยืนยันว่าผู้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และไม่อาจปฏิเสธการชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ รวมทั้งไม่สามารถขอความอนุเคราะห์ไม่ต้องคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ได้ ดังนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องพึงตระหนักเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง