“ประวิตร” เผยประชุมงานปั่นเพื่อพ่อเรียบร้อยดี ย้ำความปลอดภัย ปล่อยสืบสวนทุจริตสร้างอุทยานราชภักดิ์ ชี้ไม่ต้องเรียก “บิ๊กโด่ง-บิ๊กหมู” แจง เหตุมูลนิธิต้องส่งเอกสารมา ทบ. ดักกลุ่มการเมืองอย่าฉวยโอกาสโจมตีกองทัพ ย้อน รธน.เสร็จดูแลกันดีๆ อย่าให้เดือดร้อนถึงทหาร เซ็นลาออกพลตรีเอี่ยวผิดมาตรา 112 แล้ว ยังไม่ได้รายงานชื่อทหารหมิ่นฯ
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ฝ่ายการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรมและจัดขบวนจักรยาน และคณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร การจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ปั่นเพื่อพ่อ : Bike for Dad” พร้อมด้วยผู้แทนส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้แทนเหล่าทัพ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนกระทรวงต่างๆ, ผู้แทนกรุงเทพมหานคร เป็นต้น โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมเรียบร้อยดี ตนได้เน้นย้ำเรื่องคณะกรรมการทั้ง 2 คณะที่รับผิดชอบ รวมถึงการรักษาความปลอดภัย และจะขอความร่วมมือจากประชาชนในเรื่องการจราจร เนื่องจากในวันที่จัดกิจกรรมไม่ใช่วันหยุดราชการ
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีที่มีเซียนพระเรียกรับเงินค่าหัวคิวจากโรงหล่อว่า ขณะนี้รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวน อีกทั้งยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องปล่อยให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป ส่วนการคืนเงินบริจาคกลับมาแล้วจะถือว่ามีความผิดหรือไม่นั้นก็ให้สืบสวนกันต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเรียก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ที่ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. เข้ามาชี้แจงรายละเอียด เนื่องจากทางมูลนิธิต้องส่งเอกสารมายังกองทัพบกซึ่งต้องตรวจสอบทั้งสองฝ่ายเพื่อความชัดเจน
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อถึงความคืบหน้าคดีความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามมาตรา 112 ว่าตนได้ลงนามอนุมัติในหนังสือขอลาออกจากราชการของนายทหารยศพลตรีที่มีกระแสว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่มีรายงานถึงรายชื่อของเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มการเมืองออกมาโจมตีกองทัพว่าให้ชี้แจงงบประมาณในการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ใครจะพูดอะไรก็พูดไป คำพูดคนพูดไปเรื่อย และทางกองทัพได้จัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลการใช้จ่ายงบประมาณอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้กลุ่มการเมืองฉวยโอกาสนำประเด็นนี้เข้าโจมตีกองทัพ และหากรัฐธรรมนูญเสร็จสมบูรณ์แล้วอยากให้ฝ่ายการเมืองดูแลกันให้ดี อย่าให้เดือดร้อนถึงทหาร ตอนนี้ตนและนายกรัฐมนตรีทำทุกอย่างและเหนื่อยทุกวันตนไม่ได้เข้ามาเล่นการเมือง แต่เข้ามาดำเนินงานตามโรดแมป โดยทหารไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ทุกวันนี้ทำเพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง
