xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ต้อนรับ ปธ.คณะเสนาธิการกองทัพปากีสถาน กระชับสัมพันธ์ ร่วมมือต้านก่อการร้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรีต้อนรับประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพปากีสถาน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองกองทัพ ขณะเดียวกันไทย หวังให้มีการผลักดันความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และท่องเที่ยว พร้อมร่วมมือต่อต้านการก่อการร้าย

ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เช้าวันนี้ (9 พ.ย.) คารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้การต้อนรับ และหารือข้อราชการ พล.อ.ราชัด มาห์มูด (Gen. Rashad Mahmood) ประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถาน

หลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับ พล.อ.ราชัด มาห์มูด ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพปากีสถาน ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพไทย และเชื่อมั่นว่าการมาเยือนไทยครั้งนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกั

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของชาวปากีสถานจากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2558 และหวังว่าสถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติและประชาชนได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ตามเดิมแล้ว รวมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุอาคารที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์ไทย-ปากีสถาน ราบรื่นและมีความใกล้ชิดในทุกมิติและทุกระดับมาเป็นเวลากว่า 64 ปี มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอในทุกระดับ ตลอดจนการประชุมภายใต้กลไกความร่วมมือทวิภาคี และยืนยันนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับปากีสถานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยยินดีให้การสนับสนุนบทบาทของปากีสถานในเวทีนานาชาติ

สำหรับความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพปากีสถาน ทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และ หวังว่ากรอบความร่วมมือด้านส่งกำลังบำรุง (Thailand-Pakistan Joint Logistics Committee Meeting) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีเดียวระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพปากีสถานจะมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และสามารถขยายขอบเขตความร่วมมือที่เป็นไปได้ เพื่อประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฝึกอบรมร่วมด้านการส่งกำลังบำรุง และการพิจารณาสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ประเภทที่ 5 (สป.5) แก่ไทยในกรณีฉุกเฉินให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

นอกจากความร่วมมือด้านการทหารแล้ว นายกรัฐมนตรียังหวังให้มีการผลักดันความร่วมมือไทย-ปากีสถานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนการท่องเที่ยว และการศึกษา ควบคู่กันไป นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้าย โดยเห็นว่าเป็นภัยต่อประชาคมโลก

ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพปากีสถาน แสดงความขอบคุณประเทศไทยที่เป็นประเทศแรก ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ปากีสถานยามประสบภัยพิบัติ พร้อมกล่าวว่าบทบาททางด้านการทหารของนายกรัฐมนตรีจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศ และหวังให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำทหารระดับสูงให้มากขึ้น โดยเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างทหารและประชาชนของทั้งสองประเทศจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และภูมิภาค

นอกจากนี้เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทยหวังให้ไทยเร่งรัดการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ปากีสถาน (FTA) ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น