เอเอฟพี - กองทัพปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหาของรองผู้บัญชาการกองทัพบกอัฟกานิสถานที่ว่า นายพลปากีสถานกลุ่มหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้ายึดเมืองคุนดุซของกลุ่มตอลิบาน และได้ใส่ชุดบูร์กา (ชุดของหญิงมุสลิมที่ปิดทุกส่วนของร่างกายยกเว้นช่องตา) หลบหนีออกไปจากเมืองนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนักรบตอลิบานได้เข้ายึดเมืองเอกของจังหวัดทางภาคเหนือของอัฟกานิสถานแห่งนี้เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเป็นชัยชนะที่น่าประหลาดใจที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ถูกกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ โค่นล้มจากอำนาจเมื่อปี 2001
เมื่อวันจันทร์ (5) พล.อ.มูรัด อาลี มูรัด รองผู้บัญชาการกองทัพบกอัฟกานิสานบอกกับสื่ออัฟกันว่า กองทัพปากีสถานช่วยชี้นำการโจมตีดังกล่าว
“เราจะหาตัวและจับกุมนายพลปากีสถานที่หลบหนีไปด้วยชุดบูร์กาของผู้หญิงและกำลังหลบซ่อนอยู่ในตอนนี้” โตโลนิวส์รายงาน โดยอ้างจากคำพูดของเขา
ปากีสถานเป็นพันธมิตรหลักของกลุ่มตอลิบานระหว่างที่พวกเขาปกครองอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 1996-2001 และมักถูกชาติเพื่อนบ้านแห่งนี้กล่าวหาว่าให้การสนับสนุนการก่อกบฏในปัจจุบัน
โฆษกกองทัพปากีสถานกล่าวในถ้อยแถลงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6) ว่า ข้าวกล่าวหาที่ว่าปากีสถานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีเมืองคุนดุซเป็น “การประสงค์ร้าย”
“ข้อกล่าวหาดังกล่าวของเจ้าหน้าที่อัฟกันไม่ได้มีมูลความจริง ไร้เหตุผล น่ารังเกียจ และประสงค์ร้าย” เขากล่าว และเสริมว่า “ข้อกล่าวหาเช่นนี้ไม่แม้แต่จะทำความเข้าใจได้”
ปากีสถานกำลังเรียกร้องให้อัฟกานิสถานส่งตัว มาอูลานา ฟัซลูเลาะห์ นักการศาสนาสายเหยี่ยว หัวหน้าของกลุ่มตอลิบานในปากีสถาน ซึ่งเชื่อว่ากำลังหลบซ่อนอยู่ในภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน
อิสลามาบัดได้จัดการเจรจาสันติภาพรอบแรกระหว่างกลุ่มตอลิบานและรัฐบาลอัฟกานิสถานเมื่อเดือนกรกฎาคม แต่การเจรจารอบต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในเดือนเดียวกันนั้นได้ถูกยกเลิกภายหลังการประกาศการเสียชีวิตของมุลเลาะห์ โอมาร์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มตอลิบาน
ความสัมพันธ์ของสองชาติเพื่อนบ้านนี้มีแววความหวังว่าจะดีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ผู้ซึ่งเคยพูดไว้ว่าต้องการการฟื้นสัมพันธไมตรีที่เหมือนกับฝรั่งเศสและเยอรมนีภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับตกต่ำลงนับแต่นั้น โดยคาบูลกล่าวหาว่าอิสลามาบัดอยู่เบื้องหลังความรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มตอลิบาน ขณะที่ กานี กล่าวหาวปากีสถานว่ากำลังส่ง “คำประกาศสงคราม”