ผู้บัญชาการทหารบกสั่งทุกหน่วยงานดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 88 พรรษา ทั้งดำเนินการเองและร่วมกับส่วนราชการ ภาครัฐ-เอกชน สั่งจัดตั้งกองร้อยพร้อมรบปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบ บรรเทาสาธารณภัย และช่วยเหลือประชาชน พร้อมพิจารณานำนักศึกษาวิชาทหารไปถ่ายทอดข้อมูลสนับสนุนรัฐบาลและ คสช. เน้นกำลังพลและครอบครัวยึดหลักพอเพียง และดูแลบ้านเมืองตามโรดแมป
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่กองบัญชาการทหารบก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) หลังจากนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยผลการประชุมมีสาระสำคัญ คือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป พล.อ.ธีรชัยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกองทัพบก เริ่มดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 อย่างกว้างขวางและสมพระเกียรติ โดยให้ดำเนินการในลักษณะการจัดกิจกรรมที่ริเริ่มขึ้น และการให้การสนับสนุนกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะในทุกสถานที่ กิจกรรม และทุกโอกาส
โดยขณะนี้กองทัพบกได้จัดเตรียมกิจกรรมใน 2 ลักษณะ คือ กิจกรรมที่กองทัพบกดำเนินการเอง ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1. กิจกรรมถวายพระเกียรติฯ ได้แก่ การจัดพิธีถวายราชสักการะและถวายพระพรชัยมงคล และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ตามที่รัฐบาลกำหนด
2. กิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล ประกอบด้วย การอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 445 รูป, การปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 89 นาย จ.พระนครศรีอยุธยา, การบริการทางการแพทย์ และการบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และ 3. กิจกรรมการเผยแพร่พระเกียรติคุณ ได้แก่ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ในห้วง 1-8 ธ.ค. ณ กองบัญชาการกองทัพบก และสถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ รวมทั้งเผยแพร่พระเกียรติคุณทางสื่อของกองทัพบกตลอดห้วงเวลา
ลักษณะที่ 2 เป็นการจัดกิจกรรมร่วมกับส่วนราชการ ภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ กิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD” ในวันที่ 11-13 ธ.ค., พิธีเจริญพระพุทธมนต์, พิธีวางพานพุ่มถวายเครื่องราชสักการะ พิธีไถ่ชีวิตโค กระบือ ปล่อยนกปล่อยปลา ในวันที่ 4 ธ.ค. ณ กองบัญชาการกองทัพไทย, พิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร ที่รัฐบาลร่วมกับมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ระหว่างวันที่ 1-6 ธ.ค. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ขณะเดียวกัน การประชุมวันนี้ พล.อ.ธีรชัยให้ความสำคัญกับการฝึกและการเตรียมหน่วยทหารให้มีความพร้อมในการปฏิบัติการทางทหาร โดยสั่งการให้มีการจัดตั้งกองร้อยพร้อมรบที่มีศักยภาพภายในตัวเอง ทั้งคน เครื่องมือ ทักษะ สามารถปฏิบัติงานในแต่ละภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ เช่น การปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบ, การบรรเทาสาธารณภัย และการช่วยเหลือประชาชน เป็นต้น โดยจะจัดให้มีการฝึกที่สอดคล้องกับลักษณะการจัดหน่วยดังกล่าว อาทิ การฝึกรับมือบรรเทาสาธารณภัยเฉพาะพื้นที่
ส่วนการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับประชาชนในนโยบายเร่งด่วน และการแก้ไขปัญหาของประชาชนขณะนี้นั้น มอบให้หน่วยงานของกองทัพบกพิจารณานำนักเรียนทหาร นักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) มามีส่วนร่วมในการถ่ายทอดข้อมูลให้กับประชาชนได้รับทราบ ทุกข้อมูลให้อยู่บนข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ให้ประชาชนได้เข้าใจและเห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลและ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง โดยเห็นว่านักเรียนทหาร และนักศึกษาวิชาทหาร มีศักยภาพในการถ่ายทอดข้อมูลด้วยวิธีการที่สอดคล้องกับวัยวุฒิ ซึ่งจะช่วยให้การรับรู้ของประชาชนมีความเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องมาตรการช่วยเหลือภัยแล้ง และการร่างรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ พล.อ.ธีรชัยยังได้กำชับให้ผู้บังคับหน่วยดูแลกำลังพลและครอบครัวในทุกระดับ ให้มีความสุขตามอัตภาพ โดยยึดเรื่องความพอเพียง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จัดทำบัญชีครัวเรือน เพื่อให้ทราบพื้นฐานของการใช้จ่าย และผู้บังคับหน่วยสามารถให้การดูแลเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ครอบคลุมทั้งเรื่องการศึกษาของบุตร ที่อยู่อาศัย อาชีพเสริม เป็นต้น ให้ความสำคัญกับการทำให้ทหารมีความภาคภูมิใจในหน่วยงาน ตั้งใจในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้งานในหน้าที่ของตนเองอย่างถ่องแท้ ซึ่งจะทำให้หน่วยงานเข้มแข็ง ประเทศชาติเข้มแข็ง สามารถปฏิบัติภารกิจให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และส่วนรวมอย่างเต็มที่
พล.อ.ธีรชัยได้กล่าวด้วยว่า บ้านเมืองยังคงอยู่ในภาวะไม่ปกติ กองทัพยังคงมีบทบาทสำคัญในการนำพาประเทศให้เดินไปตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ดังนั้นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จะต้องดูแลสถานการณ์โดยรวมให้มีความเรียบร้อยเหมือนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็จะต้องตรวจสอบซ้ำในปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ เช่น การจัดระเบียบสังคม การบังคับใช้กฎหมาย อาวุธสงคราม ผู้มีอิทธิพล เพื่อป้องกันมิให้กลับไปเกิดปัญหาแบบเดิมอีก รวมทั้งสามารถมีข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย เพื่อให้รัฐบาลนำไปพิจารณาบริหารจัดการต่อไป
ในตอนท้ายของการประชุม พล.อ.ธีรชัยได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกคนที่ได้ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด ทำให้เห็นถึงระบบการทำงาน เห็นในความตั้งใจจริงของกำลังพล และผู้บังคับหน่วยทุกระดับชั้น ขอให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และระลึกอยู่เสมอว่า ทุกตำแหน่งมีความสำคัญ ทุกคนคือทีมงานของกองทัพบก