xs
xsm
sm
md
lg

แล้งอันตราย สัญญาณปลุกม็อบชาวนาไล่รัฐบาล-คสช. !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เมื่อปะติดปะต่อคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่กล่าวหลายครั้งถึงความพยายามในการปลุกระดมในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อต่อต้านรัฐบาล โดยก่อนหน้านี้เขาเตือนบางพรรคการเมืองว่า “อย่าปลุกระดม”

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน เขาก็ออกมาระบุอีกว่า มีบางกลุ่มกำลังยุยงชาวนาให้ปลูกข้าวนาปรัง เพื่อบีบบังคับเอาค่าชดเชยจากรัฐบาล หรือไม่ก็กล่าวทำนองว่า “อีกไม่นานพวกเขาก็ไปแล้ว”

“วันนี้มีบางกลุ่มไปบอกชาวนาให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวเขาก็ไปแล้ว ปลูกข้าวไปก่อนเดี๋ยวกลับมาจะทำแบบเดิมให้” หรือมีคำพูดว่า “ถ้ามีการเลือกตั้งจะดีกว่านี้ จะขายข้าวได้ราคามากกว่านี้”

คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังกล่าวย่อมสะท้อนให้เห็นว่ากำลังมีความเคลื่อนไหวปลุกระดมต่อต้านเขาต่อต้านรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเชื่อว่าหยิบยกเอาจุดอ่อนทางด้านปากท้องขึ้นมาโจมตี เนื่องจากเวลานี้เกษตรกรไม่ว่าชาวสวนยางพารา และชาวนา ต่างขายผลผลิตไม่ได้ราคา ขณะที่มีปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่สูงลิ่วกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวมีต้นเหตุหรือปัจจัยหลายอย่าง ทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจโลกจากภายนอกที่เราควบคุมได้ยาก เนื่องจากประเทศที่เคยนำเข้าสินค้าของไทย ต่สงประสบปัญหาเศรษฐกิจ ไม่มีกำลังซื้อเหมือนเดิม ทำให้ไม่ซื้อหรือซื้อน้อยลง ปัญหาเรื่องการแข่งขันของเราเองที่ด้อยลงไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเรื่องของต้นทุนที่สูงกว่า ปัญหาภัยธรรมชาติอย่างเช่น ภัยแล้ง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งเมื่อฟังจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติย่อมรับรู้ถึงความเคลื่อนไหว และคงต้องมีการเตรียมรับมือกันอย่างเข้มข้น

และหนึ่งในนั้นก็คือการรู้ทันและเปิดโปงกลับไปอย่างทันควันเหมือนกัน ดังคำพูดต่อไปนี้

“เรื่องทำข้าวนาปรัง ผมห้ามก็ไม่เชื่อ ผมก็บอกว่าถ้าทำแล้วเสียหาย ไม่มีน้ำผมก็ไม่ดูแล ดูแลไม่ได้ เพราะเตือนแล้ว ก็เห็นอยู่แล้วว่าน้ำไม่มี 4 เขื่อนมีน้ำ 4 พันกว่าลูกบาศก์เมตร ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบรายงานตัวเลขผมอยู่ทุกวัน ซึ่งมีการรายงานทั้งน้ำในเขื่อนนอกเขื่อน ปีที่แล้วคาดการณ์ก่อนฝนเข้ามีปริมาณน้ำ 3,600 ลบ.ม. แต่หลังจากพายุเข้า ปริมาณน้ำเป็น 4,100 ลบ.ม. แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำนาปรังได้ ซึ่งน้ำที่มีถ้าหารแล้วจะอยู่ได้ไม่กี่เดือน น้ำก็จะหมดจากเขื่อนก็จะไม่มีน้ำประปากิน ดังนั้นอยากให้ชาวนาเชื่อภาครัฐที่แนะนำให้ปลูกพืชอย่างอื่นทดแทน และอยากให้สื่อช่วยตรงนี้ด้วย ทั้งชาวนาและชาวสวนยาง พูดจนปากจะฉีกอยู่แล้ว”

“น้ำวันนี้มันพร่องเพราะอะไร ลองตอบมาสิ น้ำในเขื่อนน้อยเพราะอะไร ต้องไปดูว่าน้ำรองเขื่อนมีเท่าไหร่ น้ำรองเขื่อนต่ำมาตั้งแต่ปี 2555 เพราะปล่อยน้ำมาทำนาจนเหลือเฟือ เพราะมันจำนำข้าวไงเล่า ก็ปลูกให้มากเข้าไปสิ เอาน้ำไปใช้ให้หมด น้ำที่ควรจะอยู่รองก้นเขื่อน พอฝนตกมาก็จะเติมน้ำในเขื่อน แต่วันนี้น้ำในเขื่อนต่ำลงกว่าเกณฑ์ตั้งแต่ปี 2555 ทั้งกลัวเรื่องน้ำท่วมและปล่อยน้ำมาปลูกข้าว เมื่อฝนตกมาน้อย น้ำรองเขื่อนก็เตี้ยอยู่อย่างนี้ แล้วน้ำรองเขื่อนมันจะไปไหนได้คิดให้เป็นบ้าง”

อย่างไรก็ดี เมื่อพูดถึงเรื่องจำนำข้าวจะนึกถึงใคร พรรคการเมืองใด รวมไปถึงมีคนในครอบครัวไหนที่กำลังถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและกำลังจะตามมาด้วยแพ่ง ก็ต้องตอบแบบตรงไปตรงมาว่า พรรคเพื่อไทย และ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวที่กำลังถูกดำเนินคดีและถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง

ที่ผ่านมา หากย้อนกลับไปก็จะเห็นความเคลื่อนไหวของทั้ง ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นัดใส่เสื้อแดงเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน รวมไปถึงการเผยแพร่เรียงความแบบ “ดราม่า” ในทำนองว่า “ลูกชาวนามีเงินจ่ายค่าเทอม ได้เรียนหนังสือ ไม่เป็นหนี้สินเพราะโครงการจำนำข้าว”

แน่นอนว่า นั่นคือ การ “บิดเบือน” ไปอีกทาง ตามที่คนพวกนี้ถนัดในการปลุกระดมมานาน แต่อีกด้านหากมองเผิน ๆ แบบเปรียบเทียบกันง่าย ๆ ก็ต้องบอกว่าใช่ ยังมีชาวนาไม่น้อยที่ได้ประโยชน์ที่ยังคิดแบบนี้อยู่ และเวลานี้ราคาข้าว ราคายางก็ตกต่ำแบบ “สามโลร้อย” แม้ว่ามีองค์ประกอบมากมาย ทั้งตลาดโลกตกต่ำ ราคายางที่ผูกติดกับราคาน้ำมัน อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นข้างเคียงที่กระทบกันหมด แต่สำหรับชาวนาชาวสวนพวกเขาคงไม่เข้าใจ มองอย่างเดียวว่าทำไมถึงเดือดร้อนอย่างนี้ ทำให้ต้องชี้ไปที่รัฐบาลว่าล้มเหลว แบบนี้แหละอันตราย

ดังนั้น นี่คือ สัญญาณอันตรายที่กำลังมาในช่วงหน้าแล้งทุกปี และครั้งนี้หากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการรับมือที่ดีพอ มันก็น่าห่วง ยิ่งฝ่ายตรงข้ามยังเคลื่อนไหว “ใต้ดิน” ปลุกระดมชาวนาอย่างต่อเนื่อง !!
กำลังโหลดความคิดเห็น