xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมต้องเอาผิดยิ่งลักษณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ฝ่ายสนับสนุนยิ่งลักษณ์และฝ่ายเสื้อแดงมักอ้างว่า การจำนำข้าวแม้จะทำให้รัฐเสียหายก็ไม่ผิด เพราะการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าวเป็นการกระทำทางการบริหารตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันกับส่วนราชการหลายส่วนที่ต้องปฏิบัติงาน

ถ้าการทำตามนโยบายผิด รัฐบาลที่ดำเนินนโยบายที่ผ่านมาแล้วเกิดความผิดพลาดก็ต้องผิดด้วย แล้วยังอ้างว่าเป็นการช่วยชาวนา

นายเอกชัย ไชยนุวัติ อาจารย์สอนวิชากฎหมายในมหาวิทยาลัย บอกว่า การกล่าวหาว่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวเกิดความประมาทเลินเล่อ เอกชัยถามว่า ความเสียหายนั้นคืออะไร ในเมื่อโครงการคือนโยบายของฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงในช่วงเลือกตั้ง

เมื่อไม่กี่วันก่อนนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายสุดรักของทักษิณก็โพสต์เฟซบุ๊กทำนองเดียวกันว่า ถ้ารัฐบาลที่คิดนโยบายดีๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ยากจน แต่นายกฯ กลับต้องมารับโทษ อีกหน่อยคงจะไม่มีรัฐบาลไหนที่จะกล้าทุ่มเททำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนอีก

เท่ากับฝ่ายยิ่งลักษณ์พยายามบอกว่า อะไรก็ตามที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ถ้าทำแล้วผิดพลาดเจ้าของนโยบายไม่ต้องรับผิดชอบ แม้ว่ารัฐจะเสียหายก็ตาม

ทั้งที่ราคาข้าวในตลาดโลกไม่ถึงตันละ 15,000 บาท ซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็รู้อยู่แล้ว การรับจำนำจากชาวนาจึงเป็นราคาที่ราคาแพงกว่าท้องตลาดเกือบร้อยละ 50 แต่รัฐบาลไปคาดการณ์ว่าการซื้อข้าวมาตุนเอาไว้ จะทำให้ราคาตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น หวังว่าเราจะขายข้าวได้ในราคาสูงขึ้น และไม่ขาดทุน ดูเผินๆ ก็ไม่น่าจะผิดอะไร แม้ราคาตลาดโลกไม่เป็นไปอย่างที่คาดทำให้ไทยขายข้าวไม่ได้ เพราะถ้าขายก็ต้องขาดทุน และสุดท้ายก็เจ๊งไปราว 7 แสนล้านบาท

แล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ประมาทเลินเล่อหรือไม่ รัฐได้รับความเสียหายหรือไม่

ผมคิดว่า ถ้ารัฐบาลบอกว่าจะทำให้ราคาสูงขึ้นกว่าตันละ 15,000 บาท แล้วราคาตลาดโลกไปไม่ถึงนั้นไม่ผิดครับ หาเสียงว่า ถ้าจะได้เป็นรัฐบาลจะทำให้ราคาสูงถึงตันละ 20,000 บาทก็ได้ เป็นรัฐบาลแล้วไม่ถึงก็ไม่ใช่ความผิดอะไร ถ้าพูดอย่างนี้ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ แต่รัฐบาลดันหาเสียงว่า จะรับซื้อข้าวตันละ 15,000 บาท ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นราคาตลาดโลกถูกกว่าเกือบครึ่งหนึ่ง อันนี้แหละที่เรียกว่า ประมาทเลินเล่อทำให้รัฐเสียหาย

แต่ถ้าเป็นรัฐบาลแล้ว ยิ่งลักษณ์เอาเงินของตัวเองไปซื้อไม่ใช่เงินของรัฐก็อาจพูดได้ว่ารัฐไม่ได้เสียหาย แต่นี่เป็นเงินของรัฐไงครับ แล้วจะบอกว่ารัฐไม่เสียหายได้อย่างไร วันนี้วงการค้าข้าวพังยับข้าวค้างอยู่ในโกดัง 18 ล้านตัน ขายไปก็ขาดทุนเก็บไว้ก็เน่า

การไปหาเสียงแล้วเอาเงินของรัฐไปซื้อไว้ในราคา 15,000 บาทต่อตัน โดยที่รู้ว่า ราคาตลาดโลกไม่ถึงนั้น เป็นความเสี่ยงที่ทำให้รัฐเสียหาย ดังนั้นก็ต้องรับผลพวงที่จะต้องเกิดขึ้นด้วย การทำให้รัฐเสียหายย่อมมีความผิดในตัวอยู่แล้ว

แล้วเป็นนโยบายที่หาเสียงไว้ทำไมต้องมีความผิด

ผมยกตัวอย่างว่า ถ้าการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ให้สัญญาไว้กับประชาชนและแถลงต่อรัฐสภาไม่ต้องมีความผิดถ้าทำให้รัฐเสียหาย ผมไปหาเสียงว่า ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมจะซื้อที่ดินทั่วประเทศตารางวาละล้านบาท สุดท้ายเมื่อชนะการเลือกตั้ง ผมก็ทำตามสัญญาแล้วเอาเงินของรัฐไปซื้อที่ดิน ซึ่งแน่นอนว่า ผลที่จะตามมาคือ รัฐเสียหายเพราะราคาที่ดินทั่วประเทศไม่มีทางถึงตารางวาละล้านนอกจากบางพื้นที่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น เสร็จแล้วผมจะแถเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดแบบยิ่งลักษณ์ได้ไหมว่า ผมทำตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน เอาเงินไปให้ประชาชนเจ้าของที่ดิน เหมือนที่อ้างว่าเอาเงินไปช่วยชาวนา

ความจริงนโยบายจำนำข้าวตันละ 15,000 บาทนั้น น่าจะผิดตั้งแต่การหาเสียงแล้วครับ เพราะควรถือว่า เป็นการเอาเงินของรัฐไปซื้อเสียงด้วยซ้ำไป

ก่อนหน้านี้นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เองก็เคยออกมาเตือนว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้จะพังก็คงเป็นเรื่องโครงการรับจำนำข้าว เพราะแค่ชื่อโครงการจำนำก็ผิดแล้ว ซึ่งราคาจำนำต้องต่ำกว่าราคาจริง แต่การให้ราคาจำนำสูงกว่า คงไม่มีใครมาไถ่ถอน ข้าวที่มาจำนำก็มีทั้งของจริง และสต็อกลม ไม่สามารถป้องกันการทุจริตได้ ซึ่งถ้ารัฐยังขายข้าวไม่ได้ ก็จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก เรื่องนี้ได้บอกให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปแล้ว

ในช่วงนั้นนายวีรพงษ์ ยังเคยเขียนบทความถึง โครงการรับจำนำข้าว ตอนหนึ่งว่า

เมื่อรัฐบาลตั้งราคารับจำนำไว้สูงกว่าราคาตลาด สมมติ 10 เปอร์เซ็นต์ โรงสีก็จะซื้อข้าวเปลือกในราคาตลาด หรือไม่ก็ไม่ซื้อเลย แล้วทำใบประทวน สินค้าปลอมว่าซื้อข้าวใส่โกดังแล้วให้ชาวนาหรือลูกจ้างของตนมาลงชื่อว่าเอาข้าวมาจำนำเท่านั้นเท่านี้เกวียน เอาค่าลงชื่อไป 50 บาท 100 บาท อาจจะซื้อข้าวชาวนาอิทธิพลบางรายในราคาที่รัฐบาลประกาศบ้าง เวลาทางการมาตรวจเช็กก็จะให้เอาชาวนา 5-6 คนนี้มายืนยัน

เวลาทางการมาตรวจสต็อก ก็เอาสต็อกข้าวของตนเองมาแสดงพอเป็นพิธี ชาวนาโดยทั่วไปเมื่อขายข้าวให้โรงสีก็ขายในราคาตลาดนั่นเอง นี่คือการฉ้อราษฎร์บังหลวงในรอบแรก

ไม่เพียงแต่นายวีรพงษ์เท่านั้นที่ออกมาเตือน นักวิชาการอีกหลายคนรวมถึงนายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการในเครือข่ายทีดีอาร์ไอ ได้ออกมาย้ำเตือนกันครั้งแล้วครั้งเล่าว่านโยบายจำนำข้าวจะทำความเสียหายอย่างมหาศาล เพียงแต่ยกตัวอย่างนายวีรพงษ์มาเพราะนายวีรพงษ์เป็นถึงที่ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในขณะนั้น

แล้วอย่างนี้ถ้าไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วจะให้ใครมารับผิดชอบ ดังนั้นการใช้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เรียกค่าเสียหายจากยิ่งลักษณ์ ในโครงการรับจำนำข้าวนั้น เป็นทางเลือกเพียงตัวเดียวของรัฐบาลประยุทธ์ เพราะถ้ารัฐบาลไม่ทำหรือปล่อยให้หมดอายุความไปในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2560 รัฐบาลนั่นแหละจะต้องรับผิดชอบ

ส่วนยิ่งลักษณ์ถ้ามั่นใจว่าการดำเนินโครงการตามนโยบายรับจำนำข้าวที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งฝ่ายบริหารจะต้องรับผิดชอบในทางการเมือง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยใช้อำนาจปกครองตามกฎหมาย แล้วเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ฯ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ก็ไปต่อสู้กันในศาลปกครอง

ทางออกของรัฐบาลประยุทธ์มีทางเดียวครับ คือ หาตัวคนผิดเพื่อให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากนโยบายจำนำข้าวคืนกลับมาให้แผ่นดิน ไม่นั้นรัฐบาลประยุทธ์นั่นแหละจะมีความผิดเสียเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น