ผ่าประเด็นร้อน
ต้องบอกก่อนว่าเสี่ยงไม่น้อยที่พูดย้ำคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ประกาศว่าเขาจะอยู่ในอำนาจจนถึงเดือนกรกฎาคมปี พ.ศ. 2560 เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น โดยทิ้งคำพูดแบบว่า “ขืนอยู่ไปก็ไลฟ์บอย”
แม้ว่าเด็กนักข่าวในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่จะไม่รู้จักคำว่า “ไลฟ์บอย” หรือสบู่ยี่ห้อดังกล่าว เพราะเกิดไม่ทัน แต่ก็ดีเหมือนกันเมื่อมีการซักถามความหมายให้ชัดเจนจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตอบกลับมาจนได้คำตอบว่า
“ไม่ยาว ไม่สั้นหรอก กรกฎาคม 2560 ก็ไปแล้วก็เขาเขียนกฎหมายไว้อย่างนั้น จะไปอะไรอย่างอื่น คงไม่ได้ อยู่ไปก็ไลฟ์บอย”
ถามว่าไลฟ์บอยคืออะไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไลฟ์บอยคือสบู่อย่างไรเล่า สื่อไม่ใช้สบู่กันหรืออย่างไร เมื่อผู้สื่อข่าวพูดย้ำขอให้อธิบายความหมายที่นายกฯ ระบุว่าอยู่ไปก็ไลฟ์บอย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อะไรกันวะ ก็หมายความว่าทำอะไรก็ไม่สำเร็จมันก็ไลฟ์บอยไง อาบน้ำฟรีอย่างไรเล่า ศัพท์โบราณเขาก็เรียกกันอย่างนี้นี่แหละ ก็เลยพูดว่าอยู่ไปก็ไลฟ์บอย จะให้พูดว่าอยู่ไปก็ลักซ์หรือสบู่ยี่ห้ออื่นหรืออย่างไร ประโยคนี้มันเป็นคำพ้อง ซึ่งก็ไม่โบราณเท่าไหร่ เป็นคำที่ใช้ในสมัยผมนี่แหละ”
คำพูดดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดขึ้นหลังจากผู้สื่อข่าวนำเอาคำทำนายของโหรรายหนึ่งที่ทำนายว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งยาวนาน อีกทั้งปัญหาหลายอย่างในอดีตเริ่มคลี่คลายลง โดยย้ำว่าจะอยู่ในอำนาจแค่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 เท่านั้น พร้อมทั้งอธิบายความหมายของคำว่า “อยู่ไปก็ไลฟ์บอย” ว่า “ถ้าทำอะไรก็ไม่สำเร็จก็ไลฟ์บอย”
แน่นอนว่าหากพิจารณาจากคำพูดดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติก็เหมือนกับคำพูดย้ำทั้งที่เคยกล่าวให้สัมภาษณ์นักข่าวซึ่งเป็นไปตามสูตรที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายเคยระบุเอาไว้คือ 6-4 และ 6-4 เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดเอาไว้ใหม่หลังจากที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ยกร่างโดยบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และคณะถูกคว่ำในสภาปฏิรูปแห่งชาติเมื่อคราวก่อน และโรดแมปใหม่ดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยยืนยันต่อเวทีนานาชาติระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาติมาแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นั่นเป็นสัญญาประชาคมทั้งในและต่างประเทศ ไม่น่าจะมีรายการบิดพลิ้วไปจากนี้
เพราะนั่นเท่ากับว่ามีการเผื่อเวลา หลังการเลือกตั้งมีการฟอร์มรัฐบาลใหม่แล้วก็จะมีรัฐบาลใหม่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็เป็นไปตามกรอบเวลาไม่เกินนั้น หรืออาจเร็วกว่านั้นเล็กน้อยก็ได้
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากปัจจัยอื่นประกอบแล้วมันก็มีความเป็นไปได้ว่าจะไปอีกทาง นั่นคือยังมีทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีโอกาสลากยาวได้นานกว่านี้อีก เพราะแม้แต่โหรยังทำนายในทางนี้ หากพิจารณาจากความเป็นไปได้โหนคนนั้นก็คงประเมินสถานการณ์รอบด้านไม่ต่างจากชาวบ้านทั่วไปก็สามารถประเมินได้แบบนี้เหมือนกัน
นั่นคือเมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังยกร่างฯ โดยทีมของ มีชัย ฤชุพันธุ์ แม้ว่าจะยังไม่มีการพูดถึงเรื่อง “นายกฯ คนนอก” แต่ก็เชื่อว่าจะต้องมีประเด็นนี้เอาไว้ โดยอ้างเหตุผลเพื่อเป็น “ทางออกฉุกเฉิน” ป้องกันทางตันทางการเมืองเหมือนที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าเวลานี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องมาพูด เพราะรับรู้กันอยู่ว่ามันเป็นเรื่องอ่อนไหวที่ยังไม่สมควรเสี่ยง
ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องประเมินกันต่อไปก็คือ “ความศรัทธา” จากประชาชนที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีอยู่สูงมาก ยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงไปเลย เรียกว่าบุคลิกแบบนี้โดนใจคนไทย หากลองสังเกตจากผลสำรวจที่เพิ่งเปิดเผยล่าสุดที่ออกมาแม้ว่าพูดแบบอารมณ์พาไปถึงคำว่า “ปิดประเทศ” ชาวบ้านยังเอาด้วยเลย นั่นก็แสดงว่ามีจำนวนมากที่ไม่กังขาในความเป็นผู้นำของเขา
ดังนั้น แม้ว่าจากคำพูดดังกล่าวข้างต้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นการยืนยันหนักแน่นว่าทุกอย่างต้องเดินตามโรดแมปคืออยู่เพียงแค่เดือนกรกฎกฎาคมปี 60 เท่านั้นก็อีกเพียงปีกว่าเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากสองปัจจัยหลักที่หลายฝ่ายคาดว่าจะต้องมีกำหนดเรื่อง “นายกฯ คนนอก” ไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมทั้งหากเขายังสามารถรักษาศรัทธาจากประชาชนในระดับสูงแบบนี้ได้อีกจนถึงวันนั้น ถึงตอนนั้นผู้นำคนใหม่ก็อาจยังเป็นชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกก็ได้
ขณะเดียวกัน หากพิจารณากันแบบในทางที่ต้องทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “หัวเสีย” กันอีกรอบก็ต้องเสี่ยงที่จะมองว่านี่คือการพูดเพื่อสยบกระแสป่วนในช่วงการยกร่างรัฐธรรมนูญกำลังเดินหน้าในเรื่องสำคัญ รวมทั้งในช่วงคดีสำคัญกำลังเกิดขึ้น โดยย้ำให้เห็นว่า “เขามีกำหนดเวลาไปชัดเจน” ไม่ต้องกังวลให้ไปเตรียมตัวลงสมัครเลือกตั้งตามชอบกันได้ แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องมองได้เหมือนกันว่านี่คือการ “โยนหินถามทาง” ล่วงหน้า แบบหยั่งกระแสให้คิดกันก่อนทำนองว่า “อีกไม่นานจะไปแล้วนะ” จะให้อยู่ต่อหรือเปล่า และถ้าคิดแบบว่าหากรัฐธรรมนูญกำหนดเปิดทางให้นายกฯ คนนอกล่ะจะว่ายังไง
ทุกทางมันมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งสิ้น แม้ว่าการประเมินสถานการณ์แบบนี้มีโอกาสทำให้เขาหัวเสียได้ง่าย แต่หากชาวบ้านเรียกร้องให้อยู่ต่อ มาตามกติกาใหม่ มันก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือ!
