โฆษก กรธ.แจงไม่มีเจตนารมณ์ควบคุมสื่อหรือตั้งองค์กรคุมโซเชียลมีเดีย ยึดตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา คุ้มครองสื่อเสนอข่าว ย้ำเสรีภาพสำคัญ เผยยังไม่ถกที่มานายกฯ-คปป. จันทร์นี้ประชุมโครงสร้างสภา หวังสื่อกระจายข่าวถูกต้อง กระตุ้นประชาชนมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (23 ต.ค.) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในหมวดสิทธิเสรีภาพของคณะ กรธ.ไม่ได้มีเจตนารมณ์และไม่ได้มีความคิดที่จะควบคุมสื่อมวลชนหรือตั้งองค์กรใหม่มาทำหน้าที่คุมการใช้โซเชียลมีเดียโดยเฉพาะเฟซบุ๊กนั้น คณะ กรธ.ได้หารือกันถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนแล้วและเห็นควรบัญญัติว่าเสรีภาพของบุคคลผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชนในการเสนอข่าวสารย่อมได้รับการคุ้มครอง การเซ็นเซอร์ข่าวสารก่อนตีพิมพ์โดยเจ้าหน้าที่รัฐเป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้ เป็นหลักการที่อยู่ในรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง
“กรรมการร่างรัฐธรรมนูญฯ มีความเข้าใจเรื่องนี้อย่างดีว่าเสรีภาพสื่อสำคัญต่อระบอบประชาธิปไตย และทาง 4 องค์กรสื่อก็ได้มายื่นเสนอความคิดเห็นในเรื่องนี้แล้วและเราก็ได้นำประกอบการพิจารณาด้วยเหมือนกับข้อเสนออื่นๆ” นายนรชิตกล่าว
นายนรชิตกล่าวว่า ส่วนเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์นั้น กรธ.เคยมีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อนำเสนอข่าวสารและแสดงความคิดเห็นไม่ได้มีกรอบจรรยาบรรณเหมือนสื่อมวลชน แต่ที่สุดแล้ว กรธ.ไม่ได้มีการหารือหรือมีดำริแม้น้อยว่าจะสร้างกลไกควบคุมโซเชียลมีเดีย
“ไม่มีประเด็นเรื่องสร้างกลไกควบคุมอะไรทั้งสิ้น จึงขอเรียนมาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดกันต่อไป กรรมการร่างรัฐธรรมนูญคำนึงว่าเสรีภาพและความเรื่องสื่อเป็นเรื่องสำคัญ” นายนรชิตกล่าว
นายนรชิตยังกล่าวถึงการทำงานของคณะ กรธ.ในเวลานี้ว่ายังไม่ได้มีการพิจารณาเนื้อหาเกี่ยวกับที่มาของนายกรัฐมนตรีว่าจะต้องเป็น ส.ส.หรือมาจากคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. และเรื่องคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ โดย กรธ.จะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 26 ต.ค.เรื่องระบบการเมืองในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาของ กรธ.ด้วย
“กรรมการร่างรัฐธรรมนูญขอขอบคุณที่มีสื่อเห็นถึงความตั้งใจของกรรมการฯที่จะทำเรื่องเหล่านี้อย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา เราหวังในความร่วมมือในการกระจายข่าวสารที่ถูกต้องและช่วยกระตุ้นให้ประชาชนและได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนะความคิดเห็นต่อคณะกรรมการฯเพราะเราตระหนักว่า การร่างรัฐธรรมนูญเป็นภารกิจร่วมกันของคนทั้งสังคม ไม่ใช่เรื่องของคน 21 คนเท่านั้น” นายนรชิตกล่าว