รมว.ยุติธรรม นั่งหัวโต๊ะประชุม ศอตช. ปมสางงบ สสส. ระบุ “คตร. - สตง.” แจงใช้จ่ายผิดระเบียบ เตรียมเรียกผู้บริหาร สสส.แจง 3 ประเด็นสัปดาห์หน้า ย้ำต้องมีคนรับผิดชอบ สางหมดอยู่กลุ่มไหน เริ่มที่ใคร จบโดยใคร แต่เลี่ยงตอบว่าทุจริตหรือไม่ รอ สสส. ชี้แจงแล้ว บอกที่ให้เงินสื่อ สื่อก็น่าจะรู้ตัวว่าสมเหตุสมผลไหม เจอคำถามตัดท่อน้ำเลี้ยง “สำนักข่าวอิศรา” รีบบอกไม่อยากให้โยง เดี๋ยวหาว่ารัฐกลั่นแกล้ง หนุน “ธานินทร์” ตัดสิทธิ์นักการเมืองโกงตลอดชีพ บอกเป็นหลักสากล
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้เป็นประธานการประชุม ศอตช. ที่มีผู้แทนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อพิจารณาตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยการประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ในที่ประชุมตนได้ถามว่ากรณีดังกล่าว สสส. ผิดเรื่องอะไร ตรงไหน ซึ่ง คตร. และ สตง. ก็ได้รายงานผลการตรวจสอบและสรุปได้เป็น 3 ประเด็น คือ 1. พบว่ามีการใช้จ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน 2. เมื่อใช้จ่ายไม่เป็นไปตามระเบียบ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งเขาก็รายงานว่ามีกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ เกี่ยวข้องที่ต้องรับผิดชอบ และ 3. แนวทางแก้ไขซึ่งต้องแก้ไขระบบระเบียบ แก้ไขกฎหมาย โดยขั้นตอนต่อจากนี้ก็จะให้เลขา ป.ป.ท. ในฐานะเลขา ศอตช. เชิญผู้บริหาร สสส. ที่มีอำนาจและสามารถจะตอบ 3 ประเด็นนี้ได้ชัดเจนมาชี้แจง ต่อศอตช. ในสัปดาห์หน้า ซึ่งการชี้แจงคงจะเป็นการลงละเอียดเป็นรายโครงการ
ทั้งนี้ พล.อ.ไพบูลย์ ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดว่าการใช้จ่ายงบประมาณของ สสส. ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ นั้น เป็นลักษณะใด เข้าข่ายทุจริตหรือไม่ โดยตอบเลี่ยงว่า ถ้าตนบอกไปก็จะรู้ถึงบุคคลที่สามทันที ซึ่งในชั้นนี้ยังไม่อยากจะพูดถึง บุคคลที่สามจะทราบเมื่อ สสส. มาชี้แจงแล้ว
“หากผมบอกว่าทุจริต ก็จะเป็นความผิดทันที ผมตอบแค่นี้ก่อนดีกว่าว่าเป็นการใช้จ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามระเบียบฯ เพราะไม่อยากให้กระทบกับองค์กร สสส. และต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา เพราะองค์กรนี้ต้องถือว่าเป็นองค์กรที่ดี” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบเครือข่ายที่รับเงินสนับสนุนจาก สสส. ทั้งหมดด้วยได้หรือไม่ ประธาน ศอตช. กล่าวว่า ต้องลงไปตรวจอยู่แล้วเพราะต้องตรวจสอบว่าอยู่กลุ่มไหน โครงการเริ่มที่ใคร และจบโดยใคร เมื่อสอบแล้วได้ข้อมูลมาอย่างไร ก็ต้องสอบต่อไปว่าการใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ โดยจากที่มีการรายงานพบว่าโครงการของ สสส. ที่ใช้จ่ายงบไม่เป็นไปตามระเบียบมีจำนวนมากพอสมควร ส่วนจะให้มีการเปิดเผยเครือข่ายที่รับเงินสนับสนุนว่ามีองค์กรใดบ้าง ก็คงต้องรอให้สอบ สสส. จบก่อน
เมื่อถามต่อว่า จะมีการตรวจสอบคณะกรรมการ สสส. หรือผู้ทรงวุฒิอื่นด้วยหรือไม่ เพราะการลาออกของ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. ถูกมองว่าเป็นการตัดตอน พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า การตรวจสอบถ้าพบไปถึงใคร กลุ่มไหนก็ต้องดำเนินการ ซึ่งก็ต้องดูว่าโครงการมันเริ่มที่ใคร ใครเป็นผู้เสนอ เป็นผู้รับ และ โครงการไปจบที่ใคร คงต้องลงไปดูในรายละเอียด ถ้าพบว่าผิดระเบียบว่าด้วยการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน แล้วเรื่องไปถึง ป.ป.ช. มันก็ต้องเป็นเรื่องใหญ่
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่า สสส. ใช้งบไม่เป็นไปตามระเบียบฯ หมายถึงการสนับสนุนงบให้องค์กรสื่อด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า สื่อกำลังตนให้ลงในรายละเอียด คิดว่า สื่อเองก็ต้องเข้าใจ สิ่งที่ตรวจสอบคือต้องไปดูว่าการใช้งบประมาณมันสมเหตุสมผลต่อนโยบายการตั้งองค์กรนี้ขึ้นมาหรือไม่ ใครก็ตามใช้จ่ายงบไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ สื่อก็มองกันออกแต่เราก็ต้องฟังและให้ความเป็นธรรมกับ สสส. เขาด้วย
“โดยหลักตามระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ไม่มีใครมีสิทธิใช้จ่ายนอกระเบียบ ระบบได้ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ไม่เกี่ยวว่าเป็นงบที่ผ่านการพิจารณาของสภา หรือไม่ต้องผ่านการพิจารณาของสภา แต่เมื่อเป็นเงินแผ่นดิน ก้ต้องเอาไปใช้ยึดตามระเบียบฯ ไม่ใช่เอาใช้ตามแต่องค์กรของตนไม่ได้” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์ ยังปฏิเสธว่า การตรวจสอบ สสส. กรณีดังกล่าวไม่ใช่เพราะ สสส. ให้งบสนับสนุนสำนักข่าวอิศราที่ตรวจสอบรัฐ ไม่อยากให้ไปผูกเป็นเรื่องสื่อขัดแย้งกับรัฐ แล้วจะโยงว่ารัฐกลั่นแกล้ง ขออย่าโยงกัน เพราะถ้าทำอย่างนั้นรัฐเองก็ขาดความน่าเชื่อถือ เราจะดูว่าใครผิด ใครถูกก็ว่ากันไปตามนั้น ซึ่งถ้าเรื่องนี้ได้ข้อยุติดแล้ว ตนจะให้ทั้ง สตง. และ คตร. มาชี้แจงให้กับสื่อมวลชนทราบอย่างชัดเจน แต่ระหว่างนี้ขอให้ตนเป็นผู้ชี้แจงคนเดียว
เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบการดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ สสส. ที่เหมือนผูกขาดหมุนเวียนกันเป็นอยู่ไม่กี่คนหรือไม่ ประธาน ศอตช. กล่าวว่า เป็นประเด็นในข้อเสนอที่ คตร. และ สตง. แนะว่าต้องมีการแก้ไข และเมื่อถามอีกว่า กรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ สสส. ส่วนใหญ่มาจากเครือข่ายที่ได้รับการสนับสนุนงบจาก สสส. เอง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวโดยย้อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่า สื่อคิดอย่างนี้ สังคมก็คิด “ผมก็ไม่ได้กินแกลบนะ“
เมื่อสื่อรุกถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐตรวจสอบเรื่องนี้อาจเพียงต้องการปรามเท่านั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า “ผมเนี่ยนะแค่ปราม คุณเคยเห็นไพบูลย์ ไม่เอาจริงเรื่องอะไรบ้าง” ทั้งหมดต้องรอให้ สสส. มาชี้แจงแล้วจึงจะทราบว่าจะมีรายละเอียดอะไรบ้างที่จะต้องมีการแก้ไข ซึ่งตนก็จะได้รวบรวมทำเป็นข้อสรุปเสนอต่อนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวกรณี นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เสนอความเห็นเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญโดยสนับสนุนให้มีการตัดสิทธินักการเมืองทุจริตตลอดชีพ ว่า คงต้องเป็นเรื่องของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แต่ในหลักสากลเป็นอย่างไร ประเทศที่เขาต่อต้านเรื่องนี้เขาไม่ให้นักการเมืองที่ทุจริตเข้ามาร่วมเลยใช่หรือไม่ แล้วเราจะก้าวสู่สากลได้แล้วหรือยัง