xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะใส” จี้ คสช.ประกาศทิศทางปฏิรูปให้ชัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (แฟ้มภาพ)
ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย ชี้ประชุมแม่น้ำห้าสายต้องกระชับทิศทาง และเนื้อหาปฏิรูปให้เป็นรูปธรรม จัดลำดับความสำคัญ บอกเห็นแต่กรอบเวลา ถ้าไม่ตกผลึกสุดท้ายได้แค่รัฐธรรมนูญ จี้ คสช.ประกาศทิศทางให้ชัดกว่านี้ จะผลักภาระไม่ได้แล้ว

วันนี้ (18 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนเห็นว่าการประชุมแม่น้ำ 5 สายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้จะต้องกระชับทิศทางและเนื้อหาของการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นว่าจะปฏิรูปเรื่องใดก่อนหรือหลัง ต้องจัดลำดับความสำคัญไม่ต้องทำทุกเรื่องพร้อมกัน เพราะการปฏิรูปมีส่วนทั้งที่เป็นงานร้อนและงานเย็น บางเรื่องต้องรอกฎหมาย รอรัฐธรรมนูญ แต่บางเรื่องก็ทำได้โดยฝ่ายบริหาร หรือมติ ครม.

“เราเห็นแต่สูตรของการทำงานไม่ว่าจะเป็น 6-4 - 6-4 ของ คสช. หรือล่าสุดสูตร 1+1+18 ของ สปท. ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นกรอบเวลาในการทำงาน แต่ยังไม่เห็นประเด็นหรือเรื่องที่จะปฏิรูปว่าแม่น้ำทั้ง 5 สายจะตกผลึกร่วมกันที่เรื่องใดก่อน เพราะถ้าไม่ตกผลึกไม่จัดลำดับความสำคัญร่วมกันก็จะโยนกันไปกันมา นับหนึ่งไม่ได้เสียทีและสุดท้ายก็ได้แค่รัฐธรรมนูญ แล้วปล่อยให้รัฐบาลหน้ามาเป็นคนปฏิรูปซึ่งก็คาดหวังได้ยาก” นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวว่า ดังนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะที่เป็นแม่น้ำสายหลักต้องประกาศทิศทางและโรดแมปการปฏิรูปให้ชัดกว่าที่ผ่านมา ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาเดิมๆ ที่แต่ละสายมีเป้าหมายต่างกันแต่ไม่เปิดใจไม่คุยกันแบบตรงไปตรงมา จนทำให้เสียเวลาไปกว่าปี แต่ยังดีที่ในขณะนี้มีพิมพ์เขียวปฏิรูป 37 วาระที่ สปช.ได้ส่งมอบให้ คสช.กับ ครม.ไว้ก่อนยุติบทบาท ก็เท่ากับว่าแม่น้ำทั้ง 5 สายไม่ต้องไปเสียเวลานับหนึ่งศึกษากันใหม่ สามารถสังเคราะห์ต่อยอดและลงมือทำให้เห็นผลในทางปฏิบัติได้เลย ถึงตอนนี้ คสช.จะผลักภาระปฏิรูปไปอยู่ในมือ สปท.หรือ กรธ.เหมือนช่วงที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว เพราะใครๆ ก็รู้ดีว่าอำนาจนำในการกำหนดทิศทางและเนื้อหาปฏิรูปยังอยู่ในมือ คสช.


กำลังโหลดความคิดเห็น