“ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ลงพื้นที่สะพานเหล็ก ตามแนวคลองโอ่งอ่าง พร้อมเป็นตัวกลางเจรจาระหว่างกับกรุงเทพมหานคร และผู้ค้า กรณีร้องเรียนการออกคำสั่งรื้อถอนอาคารภายใน 20 ต.ค. นี้ หลังหารือร่วม 2 ชั่วโมง กทม.รับข้อเสนอขอยืดเวลาอย่างน้อย 6 เดือนให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณา แต่ไม่รู้จะออกมาทางไหน ย้ำหากไม่ทันประกาศต้องเป็นประกาศ แต่ยืนยันช่วยจัดหาสถานที่ขายแห่งใหม่
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่คลองรอบกรุง (ช่วงคลองโอ่งอ่าง) เมื่อเวลา 09.30 น. นายธาวิน อินทร์จำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่สะพานเหล็กบริเวณแนวคลองโอ่งอ่าง เขตสัมพันธวงศ์ เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ จากเรื่องร้องเรียนกรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร ได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ร้านค้าที่รุกล้ำที่สาธารณะบริเวณแนวคลองโอ่งอ่างในพื้นที่สะพานเหล็ก และสะพานหัน เขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร ภายใน 15 วัน โดยนายธาวินพร้อมด้วยตัวแทนผู้ค้าย่านสะพานเหล็กหลายสิบคนร่วมหารือกับตัวแทนของ กทม. นำโดยนายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักผังเมือง ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและคดี เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว
โดยในที่ประชุมตัวแทน กทม.ได้ชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นในการรื้อถอนและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมคลองโอ่งอ่างเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการใช้พื้นที่สาธารณะ การเปิดทางน้ำ รวมทั้งปัญหาความปลอดภัย รวมทั้งปัญหาความมั่นคงที่มีคนต่างด้าวมาเช่าแผงค้าขาย นอกจากนั้นยังแก้ปัญหาเรื่องการขายของปลอม ของละเมิดลิขสิทธิ์ โดย พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า กทม.มีความหนักใจที่จะดำเนินการเรื่องนี้ แต่เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเรื่องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สาธารณะ และที่สำคัญศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้รื้อถอนตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และที่ผ่านมาก็มีมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งมติคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ที่ให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่ง กทม. ก็ต้องทำตามกฎหมาย และกรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ กทม.ก็ดำเนินการกับการใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะที่อื่นๆ มาแล้วหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม กทม.ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือโดยการติดต่อ หรือจัดหาสถานที่ขายแห่งใหม่ให้ แต่ไม่ใช่การนำพื้นที่สาธารณะมาจัดสรรให้ขาย
ด้านตัวแทนผู้ค้าได้ขอขยายเวลาในการรื้อถอนออกไป 2-3 ปี เพราะกำหนดเวลาเดิมที่จะให้รื้อถอนภายในวันที่ 20 ต.ค.นั้นไม่สามารถทำได้ และในการปรับปรุงภูมิทัศน์ครั้งนี้ก็ขอให้ผู้ค้ามีส่วนร่วม รวมทั้งขอให้หลังจากปรับปรุงแล้วมีการจัดสรรพื้นที่ให้กลับมาทำการค้าได้เช่นเดิม
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมใช้เวลาหารือร่วม 2 ชั่วโมง โดยนายวัลลภให้สัมภาษณ์ว่า การหารือครั้งนี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้น โดย กทม.รับข้อเสนอของผู้ค้าที่จะขอขยายเวลารื้อถอนออกไปอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อไปเสนอคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบว่าผลการพิจารณาจะออกมาในทิศทางใด ส่วนการมีส่วนร่วมในการปรับภูมิทัศน์ของผู้ค้าสามารถทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และมติคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ และยืนยันว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือผู้ค้าในการหาสถานที่ขายแห่งใหม่ เมื่อถามว่าหากการพิจารณาขยายเวลาไม่แล้วเสร็จทันวันที่ 20 ต.ค.ที่มีกำหนดรื้อถอน กทม.จะดำเนินการอย่างไร นายวัลลภกล่าวว่า ประกาศก็ต้องเป็นประกาศ ขณะที่ผู้ค้าเตรียมยื่นหนังสือขอขยายเวลาการรื้อถอนออกไป โดยจะยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนครต่อไป