รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ มอง สปท.-สนช.-รบ.ต้องทำงานใกล้ชิดกันให้ปฏิรูปไปในทิศทางสอดคล้องกัน ชี้อยู่ในระยะขับเคลื่อน ต้องจัดลำดับความสำคัญปฏิรูป เผยนายกฯ เตรียมถกแม่น้ำ 5 สาย
วันนี้ (14 ต.ค.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่าจากนี้ไป รัฐบาล สปท. และ สนช.คงต้องทำงานใกล้ชิดกัน ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกันมากขึ้น รวมทั้งให้เข้าใจเจตนารมณ์เริ่มต้นของการปฏิรูปประเทศด้วย
นายสุวพันธุ์กล่าวด้วยว่า สปท.มีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนอยู่แล้วตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดไว้ในมาตรา 39/2 คือ ดำเนินการให้เกิดการปฏิรูปด้านต่างๆ 11 ด้าน สืบต่อจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยคำนึงถึงความสำคัญเร่งด่วน ผลสัมฤทธิ์ และระยะเวลาที่เหลืออยู่ รวมถึงการเสนอให้มีกฎหมายที่จำเป็นด้วย ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐบาล สปท. และ สนช.คงต้องทำงานร่วมกัน ใกล้ชิดกัน เนื่องจากรัฐบาลมีการบริหารราชการแผ่นดิน มีวาระแห่งชาติ มีเรื่องสำคัญเร่งด่วน และการปรับปรุงกฎหมายที่ได้ดำเนินการไปแล้วในระยะที่ 1 และกำลังทำอยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งปัจจุบันมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ได้ทำไว้กับแผนพัฒนาฉบับที่ 12 ซึ่งจะเชื่อมโยงไปกับการปฏิรูปประเทศทั้งสิ้น ส่วน สนช.ก็จะได้ช่วยขับเคลื่อนด้านกฎหมายให้
“ผมเห็นว่าปัจจุบันการปฏิรูปของเราอยู่ในระยะของการขับเคลื่อน รัฐบาล สปท. และ สนช. ต้องประสานการขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กันให้ได้ กรอบการปฏิรูปมีแล้ว ผลการศึกษาก็มีอยู่แล้ว ประเด็นที่ต้องคำนึงถึง คือ การจัดลำดับความสำคัญของประเด็นปฏิรูป พิจารณากรอบเวลาที่เหลืออยู่ แล้วลงมือทำงาน” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว
นายสุวพันธุ์กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดในที่ประชุม ครม.แล้วว่าจะจัดประชุมแม่น้ำ 5 สายเพื่อทำความเข้าใจทั้งเรื่องเจตนารมณ์ แนวทางการทำงานภายในกรอบเวลาที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะการได้หารือกับ สปท. เพื่อรับรู้การดำเนินการในส่วนของรัฐบาลในเวลาที่ผ่านมาซึ่งคงรอกำหนดวันที่เหมาะสมอีกครั้ง