“ศาลปกครองสูงสุด” ให้เพิกถอนหลักเกณฑ์กระทรวงอุตสาหกรรม ให้โรงงานน้ำตาลที่ตั้งใหม่ห่างจากที่เก่ามากกว่า 80 กิโลเมตร และให้พิจารณาคำขอย้ายโรงงานของ “น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี” จาก อ.ตาพระยา ไป อ.วัฒนานคร หลังเกษตรกรเดือดร้อนเพราะตั้งโรงงานไม่ได้ วัตถุดิบล้นตลาด อีกทั้งพบเลือกปฏิบัติให้คู่แข่งที่มีอยู่เดิมตั้งโรงงานน้ำตาลใหม่ห่างกันแค่ 45 กิโลเมตรได้
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่สำนักงานศาลปกครอง ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีที่สมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา, สภาเกษตรกรจังหวัดสระแก้ว กับพวกรวม 735 คน ยื่นฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรม, ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และบริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด รวม 3 คน ซึ่งศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ตามหนังสือ สอน.ที่ อก.0601/862 ลงวันที่ 12 เม.ย. 2550 เรื่องการกำหนดเงื่อนไขการย้ายสถานที่ตั้ง และขยายกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาล เฉพาะหลักเกณฑ์ในข้อ 1 ที่กำหนดให้โรงงานที่จะตั้งใหม่ต้องมีระยะห่างจากที่ตั้งของโรงงานน้ำตาลที่มีอยู่เดิมในเส้นทางที่ใกล้ที่สุดไม่น้อยกว่า 80 กิโลเมตร และให้กระทรวงอุตสาหกรรม และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาตามคำร้องขอของบริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี ในการขอย้ายสถานที่ตั้งโรงงานจาก อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ไปตั้งที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษาแก้ เป็นให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ตามหนังสือ สอน.ที่ อก. 0601/862 ลงวันที่ 12 เม.ย. 2550 เรื่องการกำหนดเงื่อนไขการขอย้ายสถานที่ตั้งและขยายกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาล เฉพาะหลักเกณฑ์ในข้อ 1 ที่กำหนดให้โรงงานที่จะตั้งใหม่ต้องมีระยะห่างจากที่ตั้งของโรงงานน้ำตาลที่มีอยู่เดิมในเส้นทางที่ใกล้ที่สุดไม่น้อยกว่า 80 กิโลเมตร โดยให้มีผลนับแต่วันออกหลักเกณฑ์ดังกล่าว และให้ปลัดกระรวงอุตสาหกรรมพิจารณาคำขอย้ายที่ตั้งโรงงานน้ำตาลของบริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงงานให้แล้วเสร็จ และแจ้งให้บริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด ทราบภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อยในนามสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา กับพวกรวม 735 คน ยื่นฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม บริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด ต่อศาลปกครองกลางเมื่อปี 2556 โดยให้เหตุผลว่า เดิม บริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด ยื่นเรื่องต่อกระทรวงอุตสาหกรรมขอย้ายฐานการผลิตจาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ไปยัง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เมื่อปี 2550 พร้อมแจกจ่ายท่อนพันธุ์ให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อจะได้ส่งอ้อยให้กับโรงงานที่ก่อสร้างเสร็จพอดีได้ทำการผลิต แต่ในขั้นตอนของการจัดตั้งโรงงาน เมื่อขออนุญาตใช้น้ำเพื่อการผลิตและการปลูกอ้อย สำนักงานชลประทานพื้นที่ 9 แจ้งว่าที่ อ.ตาพระยา มีน้ำดิบไม่เพียงพอในการเกษตร และแนะนำให้ย้ายไปตั้งโรงงานที่ อ.วัฒนานคร เนื่องจากมีแหล่งน้ำดิบเพียงพอ จึงได้ยื่นเรื่องขออนุญาตย้ายการจัดตั้งโรงงานจาก อ. ตาพระยา ไป อ.วัฒนานคร แต่กระทรวงอุตสาหกรรมกลับแจ้งว่าที่ อ.วัฒนานคร มีโรงงานผลิตน้ำตาลของบริษัทเอกชนรายหนึ่งตั้งอยู่แล้ว และกระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตน้ำตาลใหม่ว่า ต้องห่างจากโรงงานเดิมในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตร เพื่อป้องกันการแย่งวัตถุดิบ
ขณะเดียวกัน เมื่อไม่มีการจัดตั้งโรงงานใหม่ตามที่สัญญาไว้ ทำให้เกษตรกรที่รับท่อนพันธุ์อ้อยจาก บริษัท น้ำตาลนิวกว้างสุ้นหลี จำกัด ได้รับความเดือดร้อน ประสบภาวะผลผลิตล้นตลาด โรงงานน้ำตาลเดิมซึ่งมีอยู่เพียง 1 แห่งในจังหวัดสระแก้วเดิมก็ไม่สามารถรองรับปริมาณการผลิตได้ ทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยขาดทุนต่อเนื่องมายาวนานกว่า 5 ปี อีกทั้งหลักเกณฑ์ของกระทรวงอุตสาหกรรมมีความเหลื่อมล้ำ เพราะอนุญาตให้บริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่แข่ง ไปตั้งโรงงานผลิตน้ำตาลเพิ่มที่ อ.วังสมบูรณ์ ซึ่งห่างจากโรงงานผลิตน้ำตาลเดิมใน อ.วัฒนานคร เพียง 45 กิโลเมตร เท่านั้น และยังพบว่าการอนุญาตในลักษณะดังกล่าวยังเกิดขึ้นใน จ.เลย และ จ.กำแพงเพชร เมื่อสอบถามถึงเหตุผลจากกระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้รับการนิ่งเฉย ส่งผลให้ขณะนี้เกษตรกรประสบปัญหา เพราะไม่สามารถส่งอ้อยเข้าหีบในโรงงานได้ทันตามฤดูกาลหีบอ้อยที่มีระยะเวลาจำกัด นำมาสู่การฟ้องศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2556 ที่ผ่านมา
ข่าวประกอบ : ชาวไร่อ้อยยื่นศาลปกครองฟ้อง ก.อุตสาหกรรม เหตุย้ายโรงงานน้ำตาลเหลื่อมล้ำ