โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เผย “เจษฎ์-กาญจนารัตน์” ร่วมทีมที่ปรึกษา ระบุที่ประชุมดูรัฐธรรมนูญชั่วคราว ทำความเข้าใจวิธีแก้ รธน.ให้ยาก กลไกปฏิรูป ให้นักการเมืองทำความเข้าใจชาวบ้าน วางกรอบการมีส่วนร่วม เปิดเผยข้อมูลให้ตรวจสอบ ปัดตั้งองค์กรตรวจสอบนโยบายประชานิยม ไม่เคยพูด แย้มเขียนใหม่หมดเพื่อสร้างอัตลักษณ์ ให้สากล สั้น กระชับ คาดไม่เกิน 200 มาตรา ลั่นไม่เคยล็อบบี้ขอนั่ง กรธ.แต่รับเคยเข้าไปช่วยงานทำเนียบ และอยากมาทำงานจริง
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงถึงความคืบหน้าการประชุมคณะ กรธ.ว่า ในวันนี้ที่ประชุมคณะ กรธ.ได้มีที่ปรึกษา 2 คนเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ คือ นายเจษฎ์ โทณะวนิก อดีตคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ และนางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ อดีตเลขานุการคณะ กมธ.ยกร่างฯ ซึ่งตำแหน่งที่ปรึกษานั้นมาช่วยงานแต่ไม่มีอำนาจในการลงมติใดๆ ทั้งนี้ความคืบหน้าการประชุม มีการพิจารณาต่อเนื่องในกรอบแนวทางการดำเนินการจัดทำร่างตามมาตรา 35 รัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 โดยให้มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมิให้มีการทำลายหลักการสำคัญ ตามมาตรา 35 (9) คือ ต้องทำความเข้าใจส่วนใดคือหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญที่สามารถแก้ไขได้และกำหนดหลักการการใช้คะแนนเสียงจำนวนมากเพื่อให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ยาก เนื่องจากรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และให้มีกลไกปฏิรูปเรื่องสำคัญให้สมบูรณ์ เช่น การปฏิรูปการศึกษา กระบวนการยุติธรรมและการป้องกันการทุจริต เพราะจะส่งเสริมด้านอื่นๆ ให้การปฏิรูปมีประสิทธิภาพ
นายอมรกล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณากรอบร่างรัฐธรรมนูญตามความมุ่งหมายของ คสช. ว่า การสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพในการปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง ควรนำข้อเสนอของ สปท. สนช. และสปช.มาปรับความคิดเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยให้นักการเมืองมีหน้าที่ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้เกิดการยอมรับ พร้อมทั้งควรวางหลักการให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน อย่างการเปิดเผยข้อมูลให้กับประชาชนมีส่วนในการตรวจสอบ
นายอมรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้อนุกรรมการโครงสร้างฝ่ายบริหารและอนุกรรมการรับฟังและสรุปความเห็นที่มีผู้เสนอแนะ ได้มีการประชุมเป็นครั้งแรกและกำหนดกรอบการดำเนินงานโดยในการรับฟังความคิดเห็นโดยจะส่งเป็นหนังสือไปสอบถามความคิดเห็นการยกร่างรัฐธรรมนูญยัง คสช. ครม. สนช. ประชาชน พรรคการเมือง มหาวิทยาลัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กระแสข่าวที่ว่ามีการตั้งองค์กรตรวจสอบนโยบายประชานิยมนั้น ตนขอยืนยันไม่เป็นความจริง เราไม่มีนโยบายและไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องนี้ และยืนยันการทำงานเราไม่ต้องการเยิ่นเย้อ ไม่ทำงานเกินกรอบเวลา ส่วนการยกร่างรัฐธรรมนูญมีแนวโน้มว่าเราจะเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่โดยไม่ได้คัดลอกจากรัฐธรรมนูญเก่า เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของเราเอง แต่จะต้องมีความเป็นสากลและเขียนให้สั้น กระชับที่สุด โดยความเห็นตนคิดว่าน่าจะไม่เกิน 200 มาตรา และคาดว่าสามารถพิจารณารายมาตราได้ในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นายอมรกล่าวถึงกรณีถูกพาดพิงเดินสายล็อบบี้นั่งใน กรธ.และมีอำนาจปรับเปลี่ยนโผ ว่า ตนไม่เคยสร้างความขัดแย้งดังกล่าว และยืนยันไม่เคยเดินสายล็อบบี้ แต่ยอมรับได้เดินทางไปช่วยงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าจริง และตนก็มีความต้องการทำงานในฐานะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจริง แต่เรื่องนี้ตนไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจในการจะเลือกใครเข้ามานั่งในตำแหน่งนี้
