ประธาน กรธ.เผยประชุมนัดแรกวันนี้ตั้งคณะทำงานตำแหน่งต่างๆ แย้มกรอบเวลาร่างรัฐธรรมนูญไม่พอ แต่ยังคิดขยายเพิ่ม พร้อมรับฟังเสรีทุกภาคส่วนทั้งประชาชน กองทัพชี้ไม่มีเวลาทุกข์ ไม่พิสูจน์ใดๆ ยังไม่ได้หยิบรัฐธรรมนูญใดพิจารณาพิเศษ ย้ำต้องหาทางให้เกิดความสามัคคี
วันนี้ (6 ต.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญว่า ในการประชุมนัดแรกวันนี้เบื้องต้นจะเป็นการตั้งคณะทำงานในตำแหน่งต่างๆ เช่น ตำแหน่งรองประธาน โฆษก กรธ. ตำแหน่งเลขานุการ พร้อมกำหนดวันเวลาในการประชุมและวิธีการในการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพราะการร่างรัฐธรรมนูญจะครบกำหนดภายใน 180 วัน หรือวันที่ 1 เม.ย. 2558 หากตัดวันหยุดราชการและวันหยุดสุดสัปดาห์ออกไปจะเหลือเวลาทำงานเพียง 120 วัน ซึ่งมองว่ายังไม่เพียงพอ เพราะการร่างรัฐธรรมนูญจึงเป็นเรื่องของการออกแบบ และเมื่อจัดทำร่างฯ เสร็จเบื้องต้นต้องส่งไปให้องค์การต่างๆ เช่น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี และประชาชนได้พิจารณาและนำกลับมาแก้ไขหากมีข้อท้วงติงมา มองว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องขอขยายระยะเวลาร่างรัฐธรรมนูญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว
สำหรับการรับฟังความคิดเห็นในการร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะต้องคุยกันใน กรธ.ว่าจะใช้วิธีใด ซึ่งตนเองคิดว่าจะรับฟังความคิดเห็นอย่างเสรีจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาคประชาชนและการเมือง รวมถึงสื่อมวลชนก็สามารถมาร่วมแสดงความคิดเห็นได้และตนมีแนวคิดตั้งวงคุยกับสื่อ หากใครต้องการเสนออะไรมาก็เสนอมาได้ ส่วนคนที่เห็นต่างมองว่าหากไม่ชอบตนเองไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกคนแสดงความเห็นได้แต่จะต้องไม่ใช่การสั่ง เพราะในประชาธิปไตย มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และตนเองไม่ลำบากใจในการรับฟังความเห็นของคนอื่น พร้อมรับฟังเสมอ
“กลุ่มผู้เห็นต่างไม่มั่นใจก็เป็นความทุกข์ของเขา เราไม่ทุกข์เพราะไม่มีเวลาไปทุกข์ และไม่พิสูจน์ใดๆ แม้จะต้องคุกเข่าก็ตาม”
ส่วนกรณีที่มีอดีตนายทหารจากกรมพระธรรมนูญเข้ามาอยู่ใน กรธ.ถึง 3 คนมองว่าทุกคนมีความรู้กฎหมาย กรณีนี้ไม่จำเป็นว่าจะเป็นการประสานจากฝ่ายกองทัพเป็นพิเศษ เมื่อรับฟังความเห็นชองประชาชนได้ก็สามารถรับฟังความเห็นจากกองทัพได้เช่นกัน เพื่อความเป็นธรรม
นอกจากนี้ นายมีชัยกล่าวถึงเค้าโครงการร่างรัฐธรรมนูญว่า ยังไม่ได้หยิบยกรัฐธรรมนูญฉบับใดเป็นพิเศษมาใช้เป็นเค้าโครงในการร่าง แต่หากสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็จะต้องนำไปพิจารณา การแก้ปัญหาวิฤตความขัดแย้งของประเทศถือเป็นเป้าหมายในทำงาน ต้องหาหนทางว่าวิธีและที่ทำให้ประเทศเกิดความสามัคคีให้ได้