โฆษกกระทรวงกลาโหม เผยกรณีชายลักษณะแขกขาวขึ้นไปบนกรมพระธรรมนูญ ศาลทหารกรุงเทพฯ สะพายเป้สีดำขึ้นไปที่ชั้น 4 เดินขึ้นไปบนดาดฟ้า กำลังตรวจสอบรายละเอียด พบลักษณะเหมือนนักท่องเที่ยว ยืนยันมีมาตรการดูแลสถานที่อยู่แล้ว
วันนี้ (28 ก.ย.) พล.ต.คงชีพ ตันตระพานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีชายแปลกปลอมเข้ามาที่กรมพระธรรมนูญ ว่าทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เท่าที่ได้รับการรายงานจากกรมพระธรรมนูญในเบื้องต้นนั้นท่านให้เป็นเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่การรักษาความปลอดภัยสถานที่อยู่แล้ว เรามีระเบียบอยู่แล้ว
โดยขณะนี้ทางกรมพระธรรมนูญได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการดูในรายละเอียด โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจพบชายแปลกปลอมแล้วจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ของกรมพระธรรมนูญเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม เรียบร้อยแล้ว จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกล้องวงจรปิดภายนอกพบว่าชายคนเหมือนนักท่องเที่ยว มาจากทางฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมมศาสตร์ และเดินมาตามทาง ก่อนจะมาถึงบริเวณศาลทหาร
พล.ต.คงชีพกล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยทางกรมพระธรรมนูญก็ได้มีมาตรการดูแลสถานที่อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ทั่วบริเวณศาลกว่า 10 จุดในการดูแลรักษาความปลอดภัย
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ก.ย. มีชายต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติลักษณะแขกขาว สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สวมแว่นกันแดด สะพายเป้สีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ เดินเข้ามาภายในศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตรงไปที่ลิฟต์ก่อนที่จะกดขึ้นไปที่ชั้น 4 และเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าประมาณ 1-2 นาที จากนั้นกลับมาที่ชั้น 4 เดินท่าทางมีพิรุธ สลับถอดและใส่แว่น หลังจากนั้นเดินวนลงมาที่ชั้น 3 เดินไปทางซ้ายของอาคาร และเดินวนมาทางขวาของอาคาร ก่อนจะเดินกลับมากดลิฟต์ลงมาที่ชั้น 1 แล้วรีบเดินออกนอกบริเวณศาลไปทันที โดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 8-10 นาที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบทุกชั้นโดยละเอียดก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือสิ่งของที่ถูกวางไว้ในศาลแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเดินมาเข้าห้องน้ำ ที่โดยปกติมักจะมีบุคคลภายนอก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครมาขอเข้าห้องน้ำบริเวณชั้นล่างอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้โดยปกติศาลทหารกรุงเทพฯ ยังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามารับฟังการพิจารณาคดีตามปกติอยู่แล้ว