xs
xsm
sm
md
lg

เหลี่ยมจัดดักทางนักวิ่ง 2 หมื่นชื่อรอลงเรือแป๊ะ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวิษณุ เครืองาม
ผ่าประเด็นร้อน

“วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ปูดกลางวงสัมมนาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่พัทยา เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ทำเอาร้องฮือกันทั้งบ้านทั้งเมืองกับตัวเลข 2 หมื่นชื่อ รอลงเรือแป๊ะ !

“หลัง สปช. ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ มีผู้โดยสารอีก 3 กลุ่ม ที่ยังต้องดำเนินงานต่อไปอาจว้าเหว่ แต่อีกสักพักก็มีผู้โดยสารมาใหม่อีก 2 กลุ่ม คือ สภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ จะมีสมาชิกได้ไม่เกิน 200 คน แต่เท่าที่รออยู่บนท่า และจะยัดเยียดลงเรือให้ได้ ก็มีกว่า 20,000 คนแล้ว ขณะที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จะมี 21 คน มีรออยู่แค่ 4 - 5 คน

เคยพูดว่า ลงเรือแป๊ะต้องทำตามใจแป๊ะ คือ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ฉะนั้น ลงเรือแป๊ะ ต้องนั่งนิ่ง สุดแต่แป๊ะจะบอกให้ทำอะไร โดยเฉพาะแป๊ะคนนี้ดุด้วย”

พูดจาชัดถ้อยชัดคำแบบนี้ ย่อมมีความจริงแน่นอน และที่สำคัญ “วิษณุ” คือ มือกฎหมายเบอร์หนึ่งของรัฐบาล และ คสช. อีกทั้งมีบทบาทสำคัญในการตั้ง 220 สมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ และ 21 กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน ในส่วนของ สปท. ก็มีบทบาทสำคัญในการร่วมให้คำปรึกษากับ พลเอก ประยุทธ์ ในเรื่องการกำหนดสัดส่วนที่มาต่าง ๆ

จนเป็นที่มาของการที่ พลเอก ประยุทธ์ ให้แต่ละกระทรวงเสนอชื่อคนมาเป็น สปท. กระทรวงละ 5 - 10 รายชื่อ ซึ่งพอได้รายชื่อมาแล้ว ทั้งคนที่จะมาเป็น กรธ. และ สปท. ตัว วิษณุ ก็จะมีบทบาทสำคัญในการคัดกรองรายชื่อ และตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญต่าง ๆ เพื่อส่งชื่อไปให้บอร์ด คสช. และตัวพลเอก ประยุทธ์ พิจารณาแต่งตั้งในขั้นตอนสุดท้าย

วิษณุ เครืองาม จึงเป็นผู้รู้ลึก รู้จริง ในเรื่องความคืบหน้าการแต่งตั้ง สปท. และ กรธ. ตัวจริง

ดังนั้น ที่บอกว่ามีคนจ้องจะขอลงเรือเป็น สปท. กันร่วมสองหมื่นชื่อ ขณะที่คนจะมาเป็น กรธ. ถึงตอนนี้ได้แล้ว 4 - 5 ชื่อ จึงเป็นข้อมูลระดับอินไซด์ของจริง ที่รับประกันว่าไม่มีพลาด

อย่างไรก็ตาม คนกระสันต์อยากมารับใช้รัฐบาลทหารน่ะ มีจำนวนเยอะจริง เพียงแต่ตัวเลขที่บอกว่ามีถึง 2 หมื่นชื่อว่าไปแล้ว มันก็โอเวอร์ไปหน่อย ของจริงคงไม่มากขนาดนั้น แต่ก็อาจใกล้เคียง

ประเด็นในคำพูดของ “บิ๊กตู่” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ วิษณุ ให้วิเคราะห์ดูก็เชื่อได้ว่า ที่ทั้งสองคนพูดเรื่อง “ล็อบบี้ - คนรอมีตำแหน่งเพียบ” ถือเป็นการเดินหมากที่แยบยลอย่างมาก เพราะ พลเอก ประยุทธ์ และ วิษณุ ต้องการบอกให้รู้ว่า ตอนนี้มีลิสต์รายชื่อคนที่จะตั้งเป็น สปท. อยู่เป็นจำนวนมาก พวกที่คาดหวังโดยเฉพาะพวกที่วิ่งเต้น - รอลุ้นที่อยู่ในกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะพวก “อดีต สปช.” ทั้งที่โหวตเห็นชอบ และไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่มีชื่อติดโผ 200 คน ก็ขอให้ เข้าใจตรงกันนะ ว่า มันมีคนเยอะ จะมาจองเก้าอี้กินตำแหน่งกันยาว ๆ ไม่ให้คนอื่นได้เข้ามาเลย เป็นซ้ำแล้วก็ซ้ำอีก ไม่คิดจะไปอยู่ที่อื่น นอกจากรัฐสภา มันก็ไม่ได้ ถ้าชื่อไม่ติดโผขึ้นมาจริง ๆ ก็ขอให้เข้าใจตรงกัน อย่าได้โกรธเคือง จนไปอยู่อีกฝ่ายกับ คสช.

เห็นความเจนจัดของ บิ๊กตู่ กับ วิษณุ รอบนี้ที่มองเกมยาว เล่นสกัดดักทางพวกพลาดหวัง สปท. กันไว้ก่อนตั้งแต่หัววัน ต้องยอมรับว่า ไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะอย่างคนที่รอลุ้น เพราะมั่นใจในเส้นสายตัวเอง ตอนแรกอาจมีเปอร์เซ็นต์ความมั่นใจมาก เพราะคิดว่า จำนวนชื่อที่จะส่งให้ คสช. กับบิ๊กตู่ เห็นชอบรอบสุดท้าย เต็มที่ก็คงแค่ระดับสองเท่า ของอัตราที่จะต้องรับ แล้วคัดให้เหลือ 200 ชื่อ หรือเต็มที่ ก็แค่หลักพัน แต่พอมาเจอ วิษณุ บอกมีชื่ออยู่ในลิสต์รอลงเรือ สปท. ร่วมหมื่นแบบนี้ แม้ต่อให้ ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขไม่ได้มากแบบที่วิษณุบอก แต่ผลทางจิตวิทยา มันทำให้การลุ้นของคนอยากเป็น สปท. เริ่มมีความเป็นไปได้น้อยลงทันที ซึ่งก็ส่งผลดีต่อ บิ๊กตู่ ในการตั้ง สปท. นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม มองอีกมุม หากรายชื่อที่ประกาศออกมา 200 รายชื่อ ไม่ได้เรียกเสียงตอบรับเชิงบวก เพราะเป็นพวกชื่อเดิม ๆ ที่เป็นเครือข่าย คสช.- พวกอดีต สปช. ที่ทำงานรับใช้บิ๊ก คสช. - พวกอดีตข้าราชการหัวอนุรักษ์นิยม ที่ไม่ได้สนับสนุนการปฏิรูปอะไร ถ้าชื่อส่วนใหญ่มีแต่พวกนี้ บิ๊กตู่ และ คสช. ก็จะเสียหลักการเหมือนกัน เพราะเล่นประกาศว่า ไม่เอานักวิ่ง ไม่มีล็อบบี้ คัดชื่อกันมาอย่างดีจากร่วมสองหมื่นชื่อ เหลือแค่ไม่เกิน 200 คน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา มันแค่ราคาคุย เสียงด่าจะหนักกว่าสองเท่า

ก็รอดูชื่อกันในช่วงต้นเดือน 2 - 5 ต.ค. กันเองแล้วกัน ว่า 200 ชื่อ สปท. ประกาศออกมาสังคมจะแซ่ซ้อง ตอบรับด้วยความยินดี หรือร้องยี้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว เรื่องโควตาสัดส่วนที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า 200 เก้าอี้ สปท. จะแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่ม อดีต สปช. 60 คน ทั้ง สปช. ที่ลงมติรับ - ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเดิม - กลุ่มข้าราชการที่ยังรับราชการอยู่ แต่ไม่ใช่ระดับซี 11 จำนวน 20 คน - กลุ่มอดีตข้าราชการ 20 คน - กลุ่มข้าราชการทหาร - ตำรวจ 60 คน กลุ่มนักกฎหมาย 10 คน กลุ่มนักวิชาการ 10 คน กลุ่มนักธุรกิจ 10 คน ส่วนเก้าอี้ที่เหลือเว้นว่างไว้ให้โควตาสำหรับกลุ่มการเมือง และอดีตนักการเมืองในพรรคต่าง ๆ

โควตาดังกล่าว มันไม่สำคัญหรอก เพราะเป็นเรื่องเข้าใจได้ในทางการเมือง ไม่ว่ายุคไหนก็ต้องตั้งคนของฝ่ายตัวเอง คนที่ตัวเองไว้ใจ หรือคนที่เห็นว่าตั้งแล้วทำงานร่วมกันได้ ไม่คอยมาขัดแข้งขัดขากันมาทำงาน ใครจะไปเที่ยวตั้งคนฝ่ายตรงข้ามที่จ้องหาเรื่องชวนทะเลาะทุกกรณีมาทำงาน

แต่ขอแค่ว่า ให้ตั้งคนที่คนยอมรับในฝีมือ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ก็พอ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเล่นพรรคเล่นพวกอย่างเดียว เหมือนแต่งตั้งข้าราชการหลาย ๆ กระทรวงที่เห็นมา หาคนเก่งคนดีไม่ค่อยเจอ มีแต่เด็กในคาถาแป๊ะเกือบทั้งนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น