สะเก็ดไฟ
ต้องยอมรับว่า การที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีสาระสำคัญในการโยกย้ายข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่อยู่ในระหว่างถูกตรวจสอบ จำนวน 45 ราย ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นให้แก่วงการราชการเป็นอย่างมาก
เพราะมีการระบุว่า การใช้อำนาจตาม มาตรา 44 เพื่อเด้งดึ๋งดั๋งข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ 45 รายที่ว่า เป็นเพียง “ล็อตแรก” เท่านั้น ยังมีรายชื่อบรรดาข้าราชการอยู่ใน “แบล็กลิสต์”อีกเป็นกระบุง และเตรียมที่จะออกประกาศล็อตต่อๆไป ตามมาในไม่ช้า
ต้นทางของเรื่องนี้ก็มาจาก ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่มี "บิ๊กต๊อก" พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม นั่งเป็นประธานอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแย้มว่า มีรายชื่อข้าราชการพัวพันกับการทุจริต คอร์รัปชัน อยู่ในมือเกือบ 200 รายชื่อ
สำหรับรายชื่อล็อตแรกที่ออกมา หากมองผิวเผินแล้วก็ถือว่ามีระดับ“บิ๊กเนม”พอสมควร ทั้ง "สุวัตร สิทธิหล่อ" ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา "อานุภาพ เกษรสุวรรณ์" อธิบดีกรมการท่องเที่ยว "พัฒนาชาติ กฤติบวร" อธิบดีกรมพลศึกษา ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อที่แพงเกินจริง ด้านกระทรวงมหาดไทย ก็ไม่น้อยหน้า มีชื่อ "แก่นเพชร ช่วงรังษี" รองปลัดกระทรวง "กิตติภพ ตราชูวณิช" ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง "นพวัชร สิงห์ศักดา" ผู้ว่าฯอุดรธานี จากข้อหาอนุมัติใช้จ่ายงบภัยพิบัติไม่ตรงกับความเป็นจริง
แต่หากไปขุดคุ้ย “ต้นเรื่อง”จาก 4 หน่วยงานปราบโกง อย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้วต้องบอกว่า 45 รายที่แจ๊กพอตแตกไปก่อนใครเพื่อน ก็แค่ระดับ"แมวเหมียว" ไม่ใช่ "เสือหิว-เสือโหย" อย่างที่เข้าใจกัน เพราะยังมีระดับ"ตัวการ"ลอยนวลอยู่อีกเพียบ
ไม่เท่านั้น ยังมีประเภทชื่อตกหล่นไปแบบงงๆ อย่างกรณีของ กระทรวงมหาดไทย ที่ในล็อตแรก ทั้งบิ๊กข้าราชการ ตลอดจนไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่น โดนข้อหาการใช้จ่ายงบภัยพิบัติในการจัดซื้อยาฆ่าแมลงเกินจริง ซึ่งเป็นเรื่องเก่าสมัยที่ "แก่นเพชร ช่วงรังษี" เป็นผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ ตั้งแต่ปี 2553 เรียกว่านมนานกาเล กว่าจะมาเป็นเรื่องเป็นราว ที่สำคัญ “โมเดลเขมือบยาฆ่าแมลง”ก็เป็นที่รู้กันในอีกหลายจังหวัด โดยเฉพาะในแถบภาคอีสาน แต่งวดนี้กลับมีชื่อโดนเด้งออกมาเพียงไม่กี่รายเท่านั้น
จึงน่าสนใจว่า รายชื่อล็อต 2 ที่ “บิ๊กต๊อก”เปิดเผยออกมาเบื้องต้นว่า จะมีราว 70 รายชื่อนั้น จะเกิดปรากฏการณ์ "ชื่อหล่น"ระหว่างทางอีกหรือไม่ เพราะในขั้นแรก ศอตช. จะประชุมสรุปรายชื่อกันอีกครั้ง ในช่วงสัปดาห์นี้ ก่อนเสนอชื่อไปยังฝ่ายกฎหมายของคสช. ให้พิจารณาเพื่อออกประกาศตาม มาตรา 44 ให้ "บิ๊กตู่"เซ็นชื่อ
ซึ่งฝ่ายกฎหมายของ คสช. ก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น"วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่เป็นผู้ตรวจทาน และดูช่องทางกฎหมาย เพื่อความรอบคอบ ก่อนที่เรื่องจะถึงมือ “บิ๊กตู่”ในขั้นสุดท้าย
ว่ากันว่าในรายชื่อข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ ล็อตสอง นั้น นอกเหนือจาก"บิ๊กเนม" ของกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็ง และคดีทุจริตก่อสร้างโรงพักทดแทนแล้ว ยังมีบรรดา"บิ๊กเนม" ในหน่วยงานที่น่าสนใจอย่าง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) อยู่ด้วย
ที่ผ่านมา อสมท ถูก สตง. และป.ป.ช.ไล่เช็คบิลอยู่หลายเรื่อง เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ โดยเฉพาะคดีทุจริตค่าโฆษณาระหว่าง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด กับ อสมท ซึ่งขณะนี้มีการส่งฟ้อง และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา
นับตั้งแต่ "คดีไร่ส้ม"แดงขึ้นมา ก็มีความพยายามในการ"ตัดตอน" ความผิดไปตกอยู่ที่ "พนักงานจัดทำคิวโฆษณา"เท่านั้น ขณะที่ระดับบริหารต่าง"ลอยตัว" ทั้งที่มีผลการสอบสวนจากคณะกรรมการหลายชุดชี้ตรงกันว่า มหกรรมปล้น อสมท ของ บจ.ไร่ส้ม นั้นมีระดับ"ตัวการ"ในฝ่ายบริหารของ อสมท รู้เห็นเป็นใจ ทั้งที่เกษียณอายุหมดวาระไปแล้ว และที่ยังเป็นใหญ่เป็นโตใน อสมท อยู่ทุกวันนี้ด้วย
น่าสนใจไปกว่านั้น เพราะปัจจุบัน อสมท เป็นหน่วยงานในสังกัดการกำกับดูแลโดยตรงของ"วิษณุ เครืองาม " จึงมีกระแสข่าวว่า "บิ๊ก อสมท" รายหนึ่ง พยายามทุกวิถีทางให้ชื่อตัวเองหลุดจากโผในล็อตที่สอง โดยพยายามส่งข้อมูลชี้แจงกับ"วิษณุ" ตั้งแต่ ศอตช. ยังไม่ได้ชงชื่อขึ้นมา
ก็ต้องจับตาดูว่า รายชื่อล็อตสองที่ว่านี้ จะมีชื่อของ "บิ๊ก อสมท" ติดโผมาด้วยหรือไม่ หรือมีการวิ่งเต้นเป่าชื่อทิ้งอย่างที่เขาซุบซิบกันกระหึ่ม อสมท ในเวลานี้
ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า "บิ๊กตู่ ณ คสช."เอาจริงเอาจังกับการปราบโกงแค่ไหน หรือแค่หวังสร้างภาพเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้น