โฆษกรัฐบาล เผย อียูผ่อนผันระยะเวลาให้ไทยแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายออกไปอีก จากเดิมขีดเส้นตายสิ้นเดือนตุลาคมนี้ แต่ขอ 3 เรื่อง “ใช้กฎหมายประมงใหม่ - ใช้แผนบริหารจัดการประมงทะเล - ใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติ” ทำให้เป็นรูปธรรมภายในตุลาคมนี้
วันนี้ (17 ก.ย.) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้แทนรัฐบาลไทยที่เดินทางไปให้ข้อมูลเรื่องความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายกับสหภาพยุโรป (EU) ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้รายงานผลการเจรจาล่าสุด ว่า ทาง EU ได้ผ่อนผันระยะเวลาให้ไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป จากเดิมที่ขีดเส้นตายไว้ที่ 6 เดือนนับจากได้รับใบเหลือง เมื่อ 21 เม.ย. 58 คือ สิ้นสุดใน ต.ค. 58 อย่างไรก็ตาม ภายใน ต.ค. 58 นี้ ขอให้ไทยดำเนินการให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมก่อนอย่างน้อย 3 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่ 1) การประกาศใช้กฎหมายประมงใหม่ 2) การประกาศใช้แผนบริหารจัดการประมงทะเล และ 3) การประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติ ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า EU มีความเข้าใจการทำงานของรัฐบาลมากขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้วหลายเรื่อง เช่น การปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมงและกฎหมายลำดับรอง การจัดทำแผนระดับชาติในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมง ที่ผิดกฎหมาย การเร่งจดทะเบียนเรือประมงและออกใบอนุญาตทำการประมง การพัฒนาระบบควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง โดยเฉพาะการควบคุมการเข้า - ออกท่าของเรือประมง การจัดทำระบบติดตามตำแหน่งเรือ (VMS) และการปรับปรุงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
“ท่านนายกฯ รู้สึกยินดีที่ EU เข้าใจเจตนารมณ์ของรัฐบาล และยินยอมผ่อนผันให้ไทยแก้ปัญหาต่อไป เพราะที่ผ่านมาไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาและมีความคืบหน้าในหลายเรื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อรักษาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำประมง และยกระดับมาตรฐานการส่งออกอาหารทะเลในฐานะที่ไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ และหวังว่า ผลจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ตลอดจนพี่น้องชาวประมง จะส่งผลให้ไทยสามารถแก้ไขปัญหา การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ตามข้อห่วงใยของ EU ได้