โฆษกรัฐบาลเผยนายกรัฐมนตรีของไทยดีใจ “อียู” เข้าใจเจตนารมณ์ของรัฐบาล และยินยอมผ่อนผันให้ไทยแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย จากที่ขีดเส้นตายไว้ 6 เดือน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้แทนรัฐบาลไทยที่เดินทางไปให้ข้อมูลเรื่องความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายกับสหภาพยุโรป (EU) ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้รายงานผลการเจรจาล่าสุดว่า ทางอียูได้ผ่อนผันระยะเวลาให้ไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป จากเดิมที่ขีดเส้นตายไว้ที่ 6 เดือนนับจากได้รับใบเหลือง เมื่อ 21 เม.ย. 2558 คือสิ้นสุดใน ต.ค. 58
อย่างไรก็ตาม ภายใน ต.ค. 2558 นี้ ขอให้ไทยดำเนินการให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมก่อนอย่างน้อย 3 เรื่องที่สำคัญได้แก่ 1) การประกาศใช้กฎหมายประมงใหม่ 2) การประกาศใช้แผนบริหารจัดการประมงทะเล และ 3) การประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติ ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าอียูมีความเข้าใจการทำงานของรัฐบาลมากขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้วหลายเรื่อง เช่น การปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมงและกฎหมายลำดับรอง การจัดทำแผนระดับชาติในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย การเร่งจดทะเบียนเรือประมงและออกใบอนุญาตทำการประมง การพัฒนาระบบควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง โดยเฉพาะการควบคุมการเข้าออกท่าของเรือประมง การจัดทำระบบติดตามตำแหน่งเรือ (VMS) และการปรับปรุงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
“ท่านนายกฯ รู้สึกยินดีที่อียูเข้าใจเจตนารมณ์ของรัฐบาลและยินยอมผ่อนผันให้ไทยแก้ปัญหาต่อไป เพราะที่ผ่านมาไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาและมีความคืบหน้าในหลายเรื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อรักษาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำประมง และยกระดับมาตรฐานการส่งออกอาหารทะเลในฐานะที่ไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ และหวังว่าผลจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ตลอดจนพี่น้องชาวประมง จะส่งผลให้ไทยสามารถแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายตามข้อห่วงใยของอียูได้”