xs
xsm
sm
md
lg

“ทหาร” ปล้นเก้าอี้ “เลขาฯ สมช.” สถานการณ์พิเศษหรือบ้าอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ป้อมพระสุเมรุ

ว่าแต่เขาอีเหนาเป็นเอง เป็นวลีที่เข้ากันดีกับสิ่งที่ “รัฐบาล คสช.” กระทำชำเรา “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” (สมช.) ด้วยการเอาคนของตัวเองมานั่งตำแหน่งเลขาธิการ สมช.

เพราะหากย้อนไปในยุค “รัฐบาลปูแดง” โอนย้าย “พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” จากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. แทน “ถวิล เปลี่ยนศรี” เพื่อเปิดทางให้ “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” ขึ้นเป็น ผบ.ตร. ซึ่งทำให้ “นายกฯคนสวย” ต้องตกเก้าอี้ และนำมาสู่เหตุผลหนึ่งที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องนำมากล่าวอ้าง เพื่อนำรถถังออกมายึดอำนาจ 22 พ.ค.57

หนำซ้ำบรรดาเครือข่ายของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” หลายคนออกมาต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ “รัฐบาลปูแดง” ทำกับ “สมช.-ถวิล” แถมยังเรียกร้องให้คืนความเป็นธรรมให้ สมช.ด้วยการแต่งตั้ง “ลูกหม้อ” ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเบอร์หนึ่ง เพื่อนำพา สมช.ไปในทิศทางที่ควรจะเป็น

ก่อนหน้านี้ไม่นาน “บิ๊กตู่” ในฐานะหัวหน้า คสช.ก็ได้เซ็นคำสั่งเด้ง “พล.ท.พงศกร รอดชมภู” จากรองเลขาธิการ สมช. ไปตบยุงในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ทั้งจากข้อกล่าวหาในเรื่องการทุจริต และในฐานะ “คนนอก” ที่จับผลัดจับผลูตาม “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” อดีตเลขาฯ สมช.ที่ฝ่ายการเมืองส่งเข้ามาจ่อคิวฮุบอำนาจใน สมช. จนมีเสียงแซ่ซ้องชื่นชม “บิ๊กตู่” ไปทั้ง สมช.

ทว่าเมื่ออำนาจอยู่ในมือความคิด-ทัศนคติของคนย่อมเปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่อาจจะลืมว่า สมช.คือหน่วยงานความมั่นคงภาคพลเรือน ที่ควรเป็นพลเรือนเท่านั้นที่ควรปกครองกันเอง

แถมงานนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังโกหกแบบไม่เนียนที่ให้สัมภาษณ์ว่า “อนุสิษฐ คุณากร” เลขาธิการ สมช. เป็นผู้เสนอชื่อ “พล.อ.ทวีป เนตรนิยม” ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มานั่งเลขาฯสมช.เอง

ทั้งที่ความจริงแล้ว “อนุสิษฐ” เสนอชื่อ “กนกทิพย์ รชตะนันทน์” รองเลขาฯ สมช. ขึ้นเป็นเลขาฯ สมช.คนใหม่ ซึ่งมีข่าวว่า “บิ๊กตู่” ก็เคยตกปากรับคำไฟเขียวให้ สมช.มี “เลขาฯหญิงคนแรก” ไปแล้วด้วยซ้ำ โดยได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จเรียบร้อย เตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมตามวาระเท่านั้นเอง

แต่ “พี่ป้อม” กลับคัดค้านไม่ให้เสนอชื่อ “กนกทิพย์” ขึ้นเป็นเลขาฯสมช.คนใหม่ พร้อมส่งชื่อ “พล.อ.ทวีป” ให้กับ “วิษณุ” เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ และจัดการกระบวนการของคณะกรรมการข้าราชพลเรือน (ก.พ.) เพื่อโอนย้าย “พล.อ.ทวีป” ข้ามห้วยมานั่งเลขาฯสมช.

ซึ่งยกแรก “วิษณุ” คัดค้านเอาไว้ โดยให้เหตุผลว่า นายกฯต้องการให้เอา “คนใน” ขึ้นเป็นเลขาฯสมช.คนใหม่ เพื่อให้การบริหารงานเป็นเอกภาพและไม่มีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้น สัญญาณจาก “วิษณุ” ทำให้ “บิ๊กป้อม” ต้องถอยไปตั้งหลัก แต่ไม่ยอมลดละความพยายามที่จะผลักดัน “น้องวีป” ให้สมหวังให้ได้

สาเหตุหลักที่ “แป๊ะป้อม” ต้องหนีบ “น้องวีป” มาลงที่ สมช.ให้ได้ เพราะไม่สามารถเคลียร์ตำแหน่งใน “กองทัพ” ให้ “น้องวีป” ได้มีที่ยืนได้ เมื่อน้องของ “พี่ป้อม” มีหลายคน-หลายสาย ก็ต้องบริหารให้ลงตัวไม่ให้ใครออกมาร้องไห้งอแง

สุดท้าย “พี่ป้อม” ต้องไปเคลียร์กับ “น้องตู่” อ้างเหตุผลสัญญาใจกับ “น้องวีป” ด้วยตัวเอง ก่อนที่ “น้องตู่” จะส่งสัญญาณไปที่ “วิษณุ” ให้เคลียร์ตำแหน่งใหม่ ซึ่งก่อนที่จะนำชื่อเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ประมาณ 2 สัปดาห์ “วิษณุ” เรียก “อนุสิษฐ” ให้เข้าพบเพื่อทำหนังสือฉบับใหม่ เปลี่ยนชื่อ “กนกทิพย์” เป็น “พล.อ.ทวีป”

ถูกต้องที่ “บิ๊กตู่” บอกว่า “อนุสิษฐ” ชงชื่อ “พล.อ.ทวีป” ให้ ครม.พิจารณา แต่ต้องย้อนถามว่าหัวใจของ “อนุสิษฐ” อยากชงชื่อ “พล.อ.ทวีป” หรือไม่ คำตอบที่อยู่ในใจคงไม่แน่นอน

แต่สิ่งที่ “อนุสิษฐ” ทำเพราะถูกใครบางคนบังคับมาหรือไม่ อย่าลืมว่าคน สมช.ไม่มีทางหักหลังคนสมช.ด้วยกันเอง และไม่มีทางที่จะเอาคนนอกเข้ามาย่ำยีองค์กรของตัวเอง

ดังนั้นคำพูดของ “บิ๊กตู่” ที่ว่า “อนุสิษฐ” เสนอชื่อมาเอง เป็นการพูดความจริงแค่ด้านเดียว ซึ่งการพูดความจริงไม่หมด เลือกที่จะไม่พูดอีกด้านหนึ่ง ก็ไม่ต่างอะไรกับการ “โกหก” ยิ่งถ้า “ผู้นำ” ถูกจับได้ว่า “โกหก” อีกไม่นานความเสื่อมจะมาเยือน

แต่เสื่อมจากคำ “โกหก” ไม่เท่าเสื่อมจากการเปลี่ยน “คำสั่ง” จากเดิมเน้นย้ำให้เอา “ลูกหม้อ” แต่สุดท้ายต้องกลับลำเมื่อ “พี่” มาขอ “คำสั่ง” เปลี่ยนไปมาระดับผู้นำแล้ว หาก “คำสั่ง” ไม่ศักดิ์สิทธิแล้ว “ลูกน้อง” จะทำตามหรือ

ตามโรดแมปใหม่อีก 20 เดือนที่ “บิ๊กตู่” ต้องเป็นหัวขบวนนำ “ครม.ทหาร” สู่เป้าหมาย อำนาจของ “บิ๊กตู่” ไม่มีใครล้มได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ “บิ๊กตู่” เสื่อมศรัทธาคือ “พี่ชาย” สุดเลิฟคนเดียว

โดยล่าสุดเริ่มมีแรงต้านออกมาจาก “อดีตคน สมช.” และคนที่ยังทำงานใน สมช. โดยทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกันว่า “พล.อ.ทวีป” แม้เป็นนายทหารมาทั้งชีวิต แต่ไม่ได้รู้เรื่องงานความมั่นคงเหมือนที่ “บิ๊กป้อม” กล่าวอ้าง

อีกทั้งงานของ “พล.อ.ทวีป” ดูแลหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ที่โดยเนื้องานก็รู้ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับนโยบายด้านความมั่นคงเลยแม้แต่น้อย งานด้านการข่าวก็คงไม่มีความเข้าใจด้วยเช่นกัน

ฉะนั้นการอ้างว่าต้องให้ “ทหาร” ดูแลหน่วยงานด้านความมั่นคง ไม่ใช่โจทย์ที่ “บิ๊กป้อม” ตั้งไว้แต่แรก เป็นเพียงโจทย์ที่เอาไว้หลอกเด็กอมมือที่ไม่รู้อีโน่อีเหน่ เอาไว้อ้างกับคนที่รู้ไม่ทันตัวเองมากกว่า

งานของ “พล.อ.ทวีป” ที่จะเข้ามาทำใน สมช.ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ยิ่ง “กนกทิพย์” ยื่นใบลาออก “พล.อ.ทวีป” ยิ่งทำงานยากมากขึ้น เพราะได้ทิ้งเชื้อ-เพาะเชื้อ ต่อต้าน “พล.อ.ทวีป” ไปในตัว

และหาก “พล.อ.ทวีป” ดึงดันตั้ง “ทหาร” เข้ามามีตำแหน่งใน สมช.ด้วยอีก การแบ่งพรรค-แบ่งพวก-แบ่งฝ่าย ในสมช.เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน เหมือนสมัยที่ “ยิ่งลักษณ์” ตั้ง “พล.ท.ภราดร” เข้ามา

แม้ “บิ๊กตู่” จะใช้ “หทาร” ดูแลความมั่นคงเป็นหลัก แต่ถ้าเชื่อข้อมูลทางการ “ทหาร” เพียงอย่างเดียว อาจจะประเมินสถานการณ์ของประเทศผิดได้เหมือนกัน เพราะย่อมมองมิติของเหตุการณ์แตกต่างจาก “พลเรือน”

หาก “พล.อ.ทวีป” คุม สมช.ไม่อยู่ ไม่เพียงแต่ “บิ๊กตู่” ที่เสียเครื่องไม้เครื่องมือ แต่เป็นประเทศไทยที่ต้องอยู่ในภาวะเสี่ยงทางภัยความมั่นคงไม่ใช่น้อย

และหากประเมินศึกนอก-ศึกในผิดจนเกิดเหตุไม่คาดฝัน คนที่รับผิดชอบมาที่สุดกาชื่อไว้เลยว่าชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร” แล้วอย่าไปโทษ “หน่วยงานความมั่นคง” เหมือนเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ก็แล้วกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น