นายกรัฐมนตรีประชุมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กำชับบูรณาการ เชื่อมโยงแผนงาน โครงการ งบประมาณ พร้อมขอบคุณ “สมคิด” ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล วางมาตรการทางเศรษฐกิจจนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แค่รอผลเป็นรูปธรรมชัดเจน
วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 3/2558 โดยกล่าวในช่วงต้นของการประชุมว่าต้องขอบคุณคณะทำงานทุกฝ่ายต่อการทำงาน ที่ผ่านมาด้วยความอดทน วิริยะ อุตสาหะ ท่ามกลางปัญหาในขณะนี้ และจากนี้ไปเป็นการเดินหน้ายุคใหม่ ทำอย่างไรให้องค์กรทำงานอย่างบูรณาการ อาศัยความเชื่อมโยงทางด้านแผนงาน โครงการ และงบประมาณตามที่กำหนด โดยทุกคนต้องนำไปปฏิบัติ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจการปฏิบัติงานในช่วงนี้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วานนี้ (10 ก.ย.) ได้ติดตามความก้าวหน้าเกี่ยวกับมาตรการทางเศรษฐกิจ พร้อมขอบคุณนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และทุกคนที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างทุ่มเท สถานการณ์ช่วงนี้ดีขึ้นแต่ต้องรอผลงานที่ปรากฏเป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งหมดเป็นการปฏิบัติที่สำคัญในช่วงที่เรากำลังยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม จะมีขึ้นในทุกๆ 3 เดือน เพื่อเป็นการติดตามสถานการณ์และให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือถึงแนวทางและมาตรการส่งเสริมให้ เอสเอ็มอี ที่เป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็งและส่งต่อการพัฒนาภาคเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม คาดว่าจะมีการนำผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กันยายนในการเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และจะหารือถึงการขับเคลื่อนมาตรการให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ โดยมาตรการที่ ครม.อนุมัตินั้น มีทั้งในระยะเร่งด่วน ที่แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ การบรรเทาความเดือดร้อนให้เอสเอ็มอีด้วยการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 10 สำหรับเอสเอ็มอีที่มีกำไรตั้งแต่ 300,001 บาทขึ้นไป เป็นเวลา 2 รอบบัญชี และยกเว้นภาษีให้เอสเอ็มอีกลุ่มที่เริ่มกิจกรรมใหม่ เป็นเวลา 5 ปี พร้อมกับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีอีก 3 โครงการ วงเงินรวม 260,000 ล้านบาท ส่วนระยะที่ 2 เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เอสเอ็มอีทั้งระบบ
