xs
xsm
sm
md
lg

ภารกิจด่วนพี่ใหญ่เคลียร์จีน !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เกาะกระแส

00 คลอดออกมาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลภายใต้"ทีมเศรษฐกิจ"ที่นำโดย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ รมว.คลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ วงเงินกว่า 1.3 แสนล้านบาท โดยเม็ดเงินดังกล่าวปล่อยกู้ปลอดดอกเบี้ยสองปีผ่านทางกองทุนหมู่บ้านระดับเกรดเอและบีที่มีทั่วประเทศกว่า 6 หมื่นหมู่บ้าน ผ่านทางโครงการระดับตำบลๆละ 5 ล้านบาท รวมไปถึงโครงการที่ผ่านทางหน่วยงานราชการในจังหวัดโครงการละ 1 ล้านบาท เรียกว่าเน้นกันเฉพาะระดับรากหญ้าระดับล่างขึ้นพื้นฐานกันเลยทีเดียว โดยเน้นย้ำให้ต้องรีบกระจายเม็ดเงินลงไปภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า นี่ยังไม่นับมาตรการเติมเงินให้กับกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ที่จะตามมาติดๆ อีกก้อนหนึ่ง

00 เรียกว่าต้องการกระตุ้น"ภาคชาวบ้าน"กระตุกให้ขึ้นมาพอเดินได้อีกรอบหลังจากก่อนหน้านี้นอนแบ่บ"หายใจรวยริน"มานานนับปีแล้ว จากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเตี้ยติดดิน ซึ่งอีกทางหนึ่งก็ต้องหาทางทำให้ราคาสินค้าพวกนี้ขยับขึ้นมาให้ลืมตาอ้าปากได้ด้วย เพื่อให้เกิดสองแรงบวก จากเดินมาเป็นวิ่งได้เร็วขึ้น ซึ่งต้อง"รวดเร็วและทั่วถึงเป็นธรรม"และที่สำคัญต้องมีการนำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพจริง เพราะแม้ว่าจะเป็นการกู้ที่ไม่มีดอกเบี้ยสองปีแรกก็ตาม แต่นั่นคือหนี้ที่เพิ่มขึ้น ถ้าไม่ใช่การลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงในวันหน้า แต่หากนำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แม้ว่าในระยะสั้นอาจกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเม็ดเงินมาหมุน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นหนี้ครัวเรือนพอกพูนอีก ซึ่งคงต้องกำชับกันให้เข้ม เพราะบทเรียนในยุค"ประชานิยม" ทักษิณ ชินวัตร ที่ชาวบ้านนำเงินไปจ่ายผิดประเภท ไปซื้อมือถือ ซื้อมอเตอร์ไซต์ ระวังวงจรบภิโภคแบบนี้จะกลับมาอีก !!

00 แน่นอนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคราวนี้จะเดินทางถูกทางแล้ว ทั้งในเรื่องอัดฉีดลงสู่ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ เร่งความเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยให้กลไกของมหาดไทยเข้ามาช่วย นั่นคือผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และเชื่อหรือไม่ว่ามาตรการของรัฐบาลคราวนี้จะสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับมหาดไทยหรือผู้ว่าฯเป็นสำคัญ ดังนั้น มท.1 คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ต้องมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นและทำความเข้าใจ โดยเฉพาะการให้ผู้ว่าฯปรับบทบาทใหม่ให้กระฉับกระเฉง เป็นผู้นำที่ไม่ต่างจาก"นายกฯน้อย"ในแต่จังหวัดอย่างแท้จริง ต้องสลัดภาพความเชย ความล้าหลัง ต้องมีวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ทันยุคสมัยกว่าเดิม ระบบ"เจ้าขุนมูลนาย"ที่แม้ว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ก็ยังมีอยู่ ดังนั้นต้องปรับตัวแบบกลับหลังหัน เพราะความสำเร็จหรือล้มเหลวอยู่ที่ มท.เหมือนกัน !!

00 นำคณะเหินฟ้าไปเมืองจีนกันแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 2 ก.ย.สำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ.ถ้าจะบอกว่าเป็นกำหนดการเดินทางแบบกระทันหันก็อาจพูดแบบนั้นก็ได้ โดยเฉพาะหลังจากเมื่อผลการสอบสวนจับกุมผู้ต้องสงสัยขบวนการก่อเหตุลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์และสะพานสาทรมีความคืบหน้า จนทำให้เห็นว่าเริ่มมีแนวโน้มออกไปทาง "ซินเจียงอุยกูร์"มากขึ้น เพราะตัวละครที่ถูกจับถูกออกหมายจับล้วนโยงใยเกี่ยวพันกันชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และพื้นที่ก่อเหตุก็เหมือนกับมีเป้าหมายไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียอีก แม้ว่าคราวนี้จะอ้างว่าไปในฐานะตัวแทนนายกฯเข้าร่วมในพิธีสวนสนามครบรอบ 70 ปีในสงครามชนะญี่ปุ่นก็ตาม แต่คราวนี้หอบเอาทีมความมั่นคงชุดใหญ่ไปหารือย่อมไม่ธรรมดาแน่

00 ดังนั้นเมื่อเข้าใจว่าเป็นเรื่อง"อ่อนไหวละเอียดอ่อน"จึงต้องมีรายการ"เคลียร์"กันแบบ"วงใน"กันหรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรเมื่อพิจารณาจาก "ภารกิจด่วน"ของ "ขบวนพี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คราวนี้ก็ต้องบอกว่ายังให้"น้ำหนักกับจีน"มากกว่าใคร อย่างน้อยก็ยืนยันว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแน่นอน !!
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
 สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
กำลังโหลดความคิดเห็น