“ฉัตรชัย” วอนสื่อเลิกถามปม “นำเข้าน้ำมันปาล์ม 5 หมื่นตัน ฉุดราคาดิ่ง เหตุมีตัวเลขชัดเจน สต๊อกมีน้ำมันปาล์ม 9 หมื่นตัน เผย มติที่ประชุม “ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม” ขอ มหาดไทย - คสช. ช่วยลงทะเบียนเกษตรกรสวนปาล์มให้เสร็จภายใน 10 วัน หลัง สตง. จี้ถามการนำเงินงบประมาณไปใช้รับซื้อน้ำมันปาล์ม 1 แสนตัน
วันนี้ (1 ก.ย.) ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน การประชุมส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อระดมความคิดในการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม โดยมี นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม และ นายอำนวย ปะติเส อดีต รมช.เกษตรฯ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยกำกับดูแลการแก้ปัญหาปาล์มเข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมแสดงความคิดเห็นแนวทางการระบายผลผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เป็นประโยชน์ในการกำหนดนโยบายต่อไป
พล.อ.ฉัตรชัย เปิดเผยภายหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า กระทรวงเกษตรฯจะร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ทั้งหมดให้เร็วที่สุดภายใน 10 วัน เนื่องจาก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ท้วงติงเรื่องการนำเงินงบประมาณไปใช้รับซื้อน้ำมันปาล์ม 1 แสนตัน ตามมติ ครม.
โดย สตง. อยากให้มีความขัดเจนว่า เกษตรกรรายย่อยเป็นกลุ่มใด และเรื่องรายละเอียดของการช่วยเหลือ ดังนั้น เพื่อเร่งรัดมติ ครม. ให้เป็นไปตามแผนแก้ไขผลปาล์มดิบราคาตกต่ำ ภายใน 45 วัน ให้เหลือ 10 วัน ซึ่งจะช่วยเหลือเฉพาะเกษตกรรายย่อยที่ปลูกไม่เกิน 70 ไร่ ที่ผ่านมา โรงสกัดได้ยื่นบัญชีเกษตรกร เข้ามา 8,000 ราย แต่ตรวจสอบแล้วเข้าเกณฑ์ 2,800 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อ อคส. ไปซื้อจากโรงสกัด กิโลกรัมละ 26.20 บาท จำนวน 100,000 ตัน ใช้งบประมาณ 2,900 ล้านบาท ภายในกลางเดือนนี้ โดยคาดว่าราคาปาล์มดิบจะขยับขึ้นมากิโลกรัมละ 4.20 บาท แก้ปัญหาล้นตลาดในช่วงผลผลิตปาล์มกำลังออกสูงเดือน ก.ย. ถึงเดือน ต.ค. นี้
ส่วนกรณีคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้อนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์ม 50,000 ตัน ทำให้เกิดปัญหาราคาปาล์มดิบตกต่ำมาต่อเนื่องหรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอย่างมีอารมณ์ ว่า ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะนำเข้ามาเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ได้ใช้หมดไปแล้วตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
“ขอให้เลิกถามเรื่องนี้และหยุดวิจารณ์กันเสียที เพราะตอนนั้นสต๊อกมีน้ำมันปาล์มอยู่ที่ 9 หมื่นตัน มีตัวเลขชัดเจน ขณะที่ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มมั่นคง ต้องอยู่ในระดับ 250,000 ตัน ซึ่งตอนนั้นเพียง 90,000 ตัน ในขณะที่ความจำเป็นต้องใช้แต่ละเดือนอยู่ที่ 150,000 ตัน ทั้งหมดนำเข้าใช้ไปหมดแล้วตั้งแต่เดือน เม.ย. และจากนั้นเพียง 2 เดือน มีปริมาณปาล์มน้ำมัน เพิ่มขึ้นมาคงเกิดจากภาวะฝน ทำให้มีผลผลิตมาก ตัวเลขนี้มีขัดเจน ไปวิจารณ์ไม่ถูกต้อง ในส่วนตั้งข้อสงสัยการลักลอบนำเข้ากระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบสต็อกเอกชน ไม่เกี่ยวกับกระทรวงเกษตรฯ และในส่วนองค์การคลังสินค้า (อคส.) และโกดังเอกชนขณะนี้มีปริมาณน้ำมันปาล์มในสต๊อกถึง 450,000 ตัน ซี่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้รับไปตรวจสอบว่ามีเท่าไหร่กันแน่ให้ชี้แจงถึงจำนวนน้ำมันปาล์มที่เกินมามาก” รมว.เกษตรฯ กล่าว
