ครม.เพื่อนพ้องน้องพี่ !?

เกาะกระแส


00 ยังต้องเอาใจช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ให้ได้โดยเร็ว ขณะเดียวกันก็รอพิสูจน์ฝีมือของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ ผบ.ตร.ที่ได้รับมอบหมายให้คลี่คลายคดีนี้อย่างเต็มตัวด้วย รวมไปถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ที่กำลังจะพ้นตำแหน่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าในฐานะที่เป็นคนเสนอชื่อขึ้นมาด้วยเหตุผลที่ว่ามีความเหมาะสมกับ"สถานการณ์พิเศษ"ทั้งในวันนี้และวันหน้ามันจะจริงหรือเปล่า เพราะการที่ กตช.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯทำหน้าที่เป็นประธานในวันนั้นมีมติเห็นชอบแบบเอกฉันท์ ทั้งที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีอาวุโสน้อยที่สุด ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า"เจ๋งจริง" ซึ่งการพิสูจน์ที่ดีที่สุดก็คือ "ผลงาน"ที่ต้องแสดงออกมาให้เห็นเท่านั้น

00 ดังนั้นเมื่อมีเหตุร้ายดังกล่าว มองอีกมุมหนึ่งก็อาจถือเป็นโอกาสดีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา จะได้แสดงฝีมือออกมาให้เห็น เพื่อสร้างความศรัทธาและเชื่อมั่นจากประชาชนเพราะด้วยอายุราชการที่เหลืออีก 5 ปี จะได้รูักันตั้งแต่เนิ่นๆว่าจะพอฝากผีฝากไข้ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า เช่นเดียวกันก็ย่อมมีอีกมุมหนึ่งหากเป็น"ของปลอม"หรือมีการ"โฆษณาเกินจริง" ก็จะได้เห็นความจริงออกมาบ้าง นั่นคือหากจับคนร้ายไม่ได้ หรือใช้เวลานานเกินไปบอกได้คำเดียวว่า "จะซวยกันทั้งพวง"ไปยัน"พี่ใหญ่"ก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงที่ว่ากันว่าให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ต้น !!

00 จะว่าไปแล้วที่จริงรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงต้องทำงานอย่างเต็มที่อย่างน้อยต้องจับคนร้ายให้ได้ก่อน เพราะไม่ใช่เฉพาะพี่น้องคนไทยเท่านั้นที่เฝ้าติดตามกดดัน แต่ยังมีรัฐบาลต่างชาติ อย่างน้อยก็ต้องมีรัฐบาลจีน รัฐบาลมาเลย์ ที่มีคนของเขาเสียชีวิตและบาดเจ็บ และการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหนัาคสช.กล่าวปฏิเสธความช่วยเลือจากรัฐบาลต่างชาติในการสืบสวนคดีนอกเหนือจากเรื่องศักดิ์ศรีแล้วยังต้องเชื่อมั่นในศักยภาพของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยโดยเฉพาะ ว่าที่ผบ.ตร.คนใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีภายใต้การกำกับดูแลจากฝ่ายความมั่นคงที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าสามารถคลี่คลายได้โดยเร็ว ดังนั้นคราวนี้ถือว่า"มีเดิมพันสูง" กันหลายฝ่าย !!

00 มาถึงเรื่องปรับครม.กันบ้าง ชัดเจนจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ว่า สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะมาเป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจแทน"หม่อมอุ๋ย" มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล แต่ที่น่าพิจารณาก็คือการปรับครม.ชุดใหญ่เที่ยวนี้เป็นการปรับแบบ"ทูอินวัน"นั่นคือปรับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ"ขับเคลื่อน"ทุกด้าน โดยแบ่งเป็นสองส่วนคือ ดึงคนนอกเข้ามาและ"ดัน"คนที่มีอยู่แล้วให้ขยับเก้าอี้ให้สูงขึ้น เช่นจากรัฐมนตรีช่วยขึ้นมานั่งว่าการตามความถนัด ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่มาจาก"บิ๊กกองทัพ"ที่ล้วนเป็น"เพื่อนพ้องน้องพี่"ครางนี้ก็เหมือนกับการ"สกรีน"จากผลงานที่ผ่านมา เพราะบางคนก็โยกไปนั่งในเก้าอี้ตัวใหม่ที่น่าจะถนัดกว่าเดิม เช่น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ที่ตามข่าวบอกว่าจะไปนั่งรมว.เกษตรฯ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯข่าวว่าจะไปนั่งรมว.ศึกษาฯ ก็ถือว่าไม่เลว !!

00 แต่ก็มีอีกบางคนที่จะต้องถูกโยกไปนั่งเป็นรองนายกฯ ที่น่าจับตาก็มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร ที่เคยควบรมว.ต่างประเทศ และพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย จากรมว.ศึกษาฯ ที่ผ่านมาถือว่า"สอบไม่ผ่าน"หรือเปล่าจึงต้องนำไป"ขึ้นหิ้ง" ขณะเดียวกันยังต้องสงวนโควตาเอาไว้สำหรับ"บิ๊กกองทัพ"ที่กำลังเกษียณฯออกมาไว้รองรับ เช่น พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกลาโหม ที่จะเกษียณฯมานั่งเป็นรมว.แรงงาน และ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกฯจะมาเป็นรมว.พลังงานคนใหม่ ซึ่งทั้งสองรายถือว่าน่าจับตา คนแรกเป็นคน"ทำรายชื่อโยกย้ายนายทหาร"ส่วนรายหลังให้มีมาคุม"พลังงาน"ที่เป็นความมั่นคงในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยรวมก็ถือว่าโอเค ต้องยอมรับสภาพ เมื่อพิจารณาจากช่วงจังหวะเวลาหนึ่งปีก็ถือว่ายืดหยุ่นให้เกียรติกันเต็มที่แล้ว ทั้งคนนอกและเพื่อนพ้องน้องพี่ !!