คสช.ย้ำการข่าวบึ้มราชประสงค์ไม่เชื่อมโยงก่อการร้าย-ทัวร์จีน คาดโทษมโนโซเชียล-พวกก่อกวน

คสช.แถลงสถานการณ์โดยภาพรวมหลังระเบิดแยกราชประสงค์ยังเรียบร้อย จ่ายเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย ผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาลแล้ว 56 ราย การพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต 2 รายกำลังดำเนินการ วอนสงสัยว่าเป็นญาติติดต่อ รพ.ตำรวจ ด้านการสอบสวนคดีสรุปได้ว่าทำเป็นขบวนการ และด้านการข่าวไม่พบการเชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้าย และไม่ได้มุ่งกระทำนักท่องเที่ยวจีนโดยตรง ขอความร่วมมือแจ้งเบาะแส และเตรียมเอาผิดอีกขั้นต่อผู้ปล่อยข่าวลวงผ่านโซเชียลฯ และพวกก่อกวน

วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงสถานการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งสถานการณ์โดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน และดูแลพื้นที่สำคัญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุการณ์บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (19 ส.ค.) ยังคงเป็นเพียงเหตุการก่อกวน หวังให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกเท่านั้น

การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในส่วนของผู้ที่เสียชีวิต 20 ราย ได้มีการติดต่อญาติ เพื่อให้มายื่นเอกสารหลักฐานแล้ว 16 ราย โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว 9 ราย สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ติดต่อมายื่นเอกสารแล้ว 70 ราย และได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือไปบางส่วนแล้ว สำหรับการรักษาพยาบาล ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ยอดผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ มีการออกจากโรงพยาบาลแล้ว 56 ราย คงเหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 67 ราย สำหรับผู้ที่เสียชีวิตได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียง 2 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นญาติของตนเอง ให้ติดต่อกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ในส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ด้านการสืบสวนคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและสอบพยานบุคคล พยานแวดล้อมต่างๆ ทั้งในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ จึงสามารถนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องสงสัยตามที่ปรากฏในภาพข่าวทั่วไปแล้ว และสามารถสรุปในชั้นต้นว่า เหตุดังกล่าว มีการดำเนินการอย่างเป็นขบวนการ สำหรับด้านการข่าว หน่วยงานด้านความมั่นคง ยังคงได้รับความร่วมมือจากหน่วยข่าวของมิตรประเทศ ซึ่งมีความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันในชั้นต้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายสากล และเห็นว่าเป้าหมายของกลุ่มก่อเหตุไม่ได้มุ่งกระทำต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยตรง เนื่องจากมีบุคคลสัญชาติอื่นได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติต้องขอขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความมีน้ำใจและการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เช่น การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุ การช่วยเหลือของผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง การร่วมบริจาคโลหิตให้กับโรงพยาบาลต่างๆ และการให้กำลังใจและร่วมไว้อาลัยแก่ญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้เห็นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนไทยและประเทศไทยไม่เคยปล่อยปละละเลยหรือทอดทิ้ง ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนชาติใดหรือศาสนาใด

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้นั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนหากพบเบาะแสหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมของผู้ต้องสงสัยตามหมายจับ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที และขอแจ้งให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่จะเพิ่มระดับต่อการบังคับใช้กฎหมาย ต่อผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ และผู้ที่ออกมาสร้างเหตุก่อกวนจนทำให้สังคมเกิดความสับสนหรือตื่นตระหนกอย่างจริงจังให้มากยิ่งขึ้น