กรมคุ้มครองสิทธิฯ พร้อมเยียวยาเหยื่อบึ้ม หากผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์

กรมคุ้มครองสิทธิฯ มอบเงินเยียวยาเหยื่อบึ้มราชประสงค์ ชาวต่างชาติ 5 ราย โดยเป็นชาวมาเลเซีย จำนวน 4 ราย และชาวอินโดนีเซียอีก 1 ราย และพร้อมจ่ายผู้เสียชีวิตที่เหลือหากผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์ทั้หมดแล้ว

วันนี้ (19 ส.ค.) ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ชาวมาเลเซีย 4 ราย และชาวอินโดนีเซีย 1 ราย รายละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 500,000 บาท

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า เมื่อมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในฐานะที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ก็มีหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา สำหรับผู้ที่เสียชีวิตก็จะได้รับเงินชดเชยเยียวยารายละ 100,000 บาท สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะจ่ายตามค่ารักษาพยาบาลจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท รวมทั้งค่าฟื้นฟูร่างการและจิตใจเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากิน วันละไม่เกิน 200 บาท ไม่เกิน 1 ปี ค่าตอบแทนความเสียหายอื่นไม่เกิน 30,000 บาท ค่าห้องค่าอาหารวันละไม่เกิน 600 บาท ในวันนี้ตนก็ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้เดินทางมาดำเนินการเรื่องการเยียวยาดังกล่าว

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวต่อไปว่า กรณีผู้เสียชีวิตชาวต่างชาตินั้น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะดูแลรายละ 100,000 บาท ในส่วนของชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวก็ทราบจากนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีประกันภัยชีวิตกลุ่มสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งจะจ่ายให้นักท่องเที่ยวอีกรายละ 300,000 บาท ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการอยู่ วันนี้ก็นำเงินเยียวยาในส่วนของกระทรวงยุติธรรมมาจ่ายให้ทางญาติผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างประเทศทั้ง 5 ราย กำลังเร่งดำเนินการให้ทั้ง 5 ราย เสร็จสิ้นในวันนี้ เพราะว่าชาวต่างชาติก็คงอยากจะรีบรับศพและเดินทางกลับประเทศไปโดยเร็ว

“ส่วนกรณีที่ชาวต่างชาติเรียกร้องหรือร้องขอเกี่ยวกับเรื่องค่าขนส่งศพซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง เราจะมีการพิจารณาร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น ในส่วนของข้อบังคับและระเบียบตามข้อกฎหมาย ไม่ได้ครอบคลุมค่าขนส่งศพไว้ก็อาจจะหาทางดำเนินการว่าจะมีหน่วยงานใดให้ความช่วยเหลือต่อไป แต่ในวันนี้กระทรวงยุติธรรมนำเงินสำรองจ่ายเป็นกรณีพิเศษมาจ่ายตามกฎหมายให้เหยื่อทั้ง 5 ราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้จ่ายให้ไปก่อนแล้ว 2 ราย เป็นคนไทย ผมได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 20 ราย หากผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อยแล้ว ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะได้ทำงานเชิงรุกด้วยการเจาะเข้าไปหาญาติและทายาทโดยธรรมที่จะมีสิทธิได้รับเงินที่มีการยื่นคำขอไว้แล้วจำนวน 15 ราย” พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า สำหรับกรณีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล กรมคุ้มครองสิทธิฯ ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการดูแลค่าใช้จ่ายหรือไม่นั้น เบื้องต้นว่ากระทรวงสาธารณสุข จะดูแลในเรื่องของค่าใช้จ่าย แต่ว่าสำหรับกรมคุ้มครองสิทธิฯ ตามกฎหมายฉบับดังกล่าวบอกไว้ว่าเมื่อรักษาพยาบาลเสร็จสิ้นแล้วก็ต้องเอาใบรับรองแพทย์ใบสรุปค่าใช้จ่ายมาเบิกจ่ายได้ตามจริง ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 30,000 บาทอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เป็นโรงพยาบาลเอกชนตนไม่แน่ใจ แต่โดยหลักการทางรัฐไทยให้การดูแลและเยียวยาเป็นพิเศษทั้งคนไทยและต่างชาติที่ได้รับผลกระทบบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่แล้ว