xs
xsm
sm
md
lg

คสช.สรุปเหตุบึ้ม แจงช่องทางเยียวยา สั่งตั้ง 88 จุตรวจ “จักรทิพย์” นั่งคุมคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.(แฟ้มภาพ)
โฆษก คสช.แถลงเหตุลอบบึ้มกลางกรุงวานนี้ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 12 คน สรุปข้อมูลเช้าที่ผ่านมาเสียชีวิต 20 เจ็บ 108 ออกจาก รพ.แล้ว 41 ราย แจงช่องทางยื่นเยียวยา คนไทยเสียชีวิตรับ 1 แสน ต่างชาติไม่เกิน 3 แสน สั่ง ตั้ง 88 จุดตรวจ ทหาร-ตร.ผสานกำลัง สตช.ตั้งคณะทำงานพิเศษตามคดี “จักรทิพย์” คุม เผยหัวหน้า คสช.ขอบคุณ จนท.-อาสาฯ ช่วยดูแลผู้ดูแลผู้บาดเจ็บเหตุวานนี้ ฝากเป็นหูเป็นตา ระวังเผยแพร่ข้อมูล



วันนี้ (18 ส.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย น.ส.ปริยา เนตรวิเชียร ผู้แปลภาคภาษาอังกฤษ และ พ.อ.เมธี พร้อมเพรียง ผู้แปลภาคภาษาจีน แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) ว่า เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) เวลา 18.55 น.ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ภายในรั้วศาลพระพรหมเอราวัณ ห้วงเวลาดังกล่าวมีประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 12 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ล่าสุดข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เมื่อเวลา 08.35 น.ของวันนี้ระบุว่า มีผู้เสียชีวิ รวมจำนวน 20 คน (จีน 2 คน, มาเลเซีย 2 คน, ฮ่องกง 2 คน, สิงคโปร์ 1 คน, ไทย 5 คน, ไม่ทราบสัญชาติ 8 คน) และได้รับบาดเจ็บ 108 ราย และในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยซึ่งได้รับการรักษาพยาบาลและได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วจำนวน 41 ราย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความห่วงใยเรื่องการดูแลและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศรวมถึงการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยให้ทุกส่วนดูแลในเรื่องนี้ให้ดีที่สุด

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า โดยเช้าวันนี้จากการประชุม บก.ติดตามสถานการณ์โดยมีรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร เป็นประธานและมีหน่วยงานด้านความมั่นคงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลประชาชนเข้าชี้แจง ความคืบหน้าความคืบหน้าของการปฏิบัติ สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งที่เป็นชาวต่างชาติและคนไทยนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้เร่งให้กระทรวงต่างๆ ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ช่วยกันดำเนินการเยียวยาตามหลักการแล้ว

โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่เป็นคนไทยสามารถประสานยื่นเรื่องขอรับการเยียวยา ได้กับกรุงเทพมหานคร และกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม สำหรับชาวต่างชาติ ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้ประสานงานผ่านสถานทูตประเทศต่างๆ หรือประสานโดยตรงกับกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ สำหรับค่าตอบแทนผู้เสียหายที่จะได้รับมี ดังนี้ กรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมจะจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย กรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากิน วันละ 200 บาท ต่อ 1 ปี ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 30,000 บาท และค่าห้องวันละ 600 บาท ในกรณีที่เสียชีวิต ทายาทจะได้รับค่าตอบแทน จำนวน 100,000 บาท ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากกองทุนประกันภัยนักท่องเที่ยวให้กับ เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีได้รับบาดเจ็บ ไม่เกิน 100,000 บาท และกรณีเสียชีวิต ไม่เกิน 300,000 บาท

ทางด้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ภายหลังการเกิดเหตุ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้สั่งการให้สำนักงานเลขาธิการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จัดตั้ง บก.ติดตามสถานการณ์ ณ แหล่งสมาคมนายทหารกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน.4) และได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) และหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ กันพื้นที่เกิดเหตุ และอำนวยความสะดวกในการนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง

นอกจากนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด และชุดสายตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่สำคัญต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 88 จุด โดยใช้กำลัง จำนวน 1,162 นาย (ทหาร 609, ตำรวจ/553 ) รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเอกชน เพื่อช่วยในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และค้นหาวัตถุต้องสงสัยที่อาจปรากฏในพื้นที่ สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัดได้จัดกำลังทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด และชุดสายตรวจในพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

พ.อ.วินธัยกล่าวอีกว่า สำหรับการสืบสวนในทางคดี ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษ โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นหัวหน้าคณะ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน และพยานบุคคล สำหรับสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้น จะมีการพิจารณาในทุกมิติและทุกประเด็น ดังนั้นจึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลในทางคดีมีความสมบูรณ์ที่สุด

ทั้งนี้ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วน และอาสาสมัครที่ได้ช่วยกันดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบสิ่งผิดปกติหรือเหตุต้องสงสัยใดๆ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้ทันที ตลอดจนขอความร่วมมือในกรณีที่ท่านอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นหรือไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางบ้าง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและสังคมส่วนรวม นอกจากนี้ขอความร่วมมือให้ประชาชนและสื่อมวลชน ทุกแขนงระมัดระวังการเผยแพร่ภาพและข้อความที่อาจไม่เหมาะสม หรือมีผลกระทบต่อจิตใจของญาติและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนติดตามรับฟังข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ โดยเฉพาะข่าวสารที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาล ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยอย่างดีที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น