คสช.แถลงทีวีพูลยันคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน

ASTVผู้จัดการ - คสช. แถลงด่วนระเบิดแยกราชประสงค์ ยันเจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์ได้แล้ว คนเจ็บส่ง 11 รพ. โต้ข่าวลือปิดโรงเรียน - สถานที่ราชการ - สถาบันการเงิน เผยปิดแค่ ถ.พระราม 1 ตั้งแต่แยกเพลินจิต ถึง อังรีฯ ถึงเที่ยงวันที่ 18 ส.ค. เท่านั้น เตือนสื่อระมัดระวังการเผยแพร่ภาพ เพราะกลุ่มไม่หวังดีจ้องขยายผลให้ประเทศเสื่อมเสีย วอนประชาชนระวังการบริโภคข้อมูลโซเชียล เป็นหูเป็นตาแจ้งสิ่งผิดปกติ หรือ โทร. 191 ยันยังไม่จำเป็นประกาศภาวะฉุกเฉิน

วานนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 23.45 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านทีวีพูลถึงเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมแถลง โดย พล.ต.สรรเสริญ และ พ.อ.วินธัย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ส่วน พล.ต.วีรชน แถลงข่าวเป็นภาษาอังกฤษ ใจความสำคัญระบุว่า คสช. สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

พล.ต.สรรเสริญ - “จากกรณีที่มีเหตุการณ์ระเบิดขึ้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร วันนี้เวลา 19 นาฬิกาเศษ ๆ ท่านนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีบัญชาให้ จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นกรณีพิเศษขึ้น เพื่อที่จะเรียนชี้แจงรายละเอียดและข้อมูลสำคัญให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบนะครับ

“ในวันนี้เวลา 19 นาฬิกา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ ทันทีที่มีการรายงานการเกิดเหตุระเบิดขึ้น ท่านนายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาสั่งการให้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้ติดตามสถานการณ์และรายงานความคืบหน้าให้ท่านนายกฯ ทราบโดยละเอียดและโดยใกล้ชิดนะครับ ในรายงานพบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง และผู้บาดเจ็บหลายราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่พิสูจน์ทราบเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดได้เข้าควบคุมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้บาดเจ็บนั้น ได้นำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียงในเขตกรุงเทพฯ แล้วทั้งสิ้น 11 แห่งด้วยกัน

“สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นกำลังพิสูจน์ทราบรายชื่อ และพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อจะติดต่อให้กับญาติและครอบครัวทราบโดยเร็วที่สุด สำหรับกรณีที่เป็นผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทีเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งเป็นผู้ที่ติดต่อประสานงานกับล่ามเพื่อจะอำนวยความสะดวก และแจ้งข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ให้กับครอบครัวและญาติผ่านทางสถานทูตโดยเร่งด่วน

“ท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้ที่บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างสุดซึ้ง รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการตามมาตรการทุกอย่าง อย่างเต็มความสามารถ เพื่อที่จะสืบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่บงการ และผู้ที่มีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดมาลงโทษให้ได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกัน ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องสื่อมวลชนในการที่จะนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ด้วยความรอบคอบ ใช้ดุลพินิจในการนำเสนอภาพข่าว เนื่องด้วยมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี พยายามที่จะฉกฉวยสถานการณ์นำข้อมูลภาพต่าง ๆ ที่นำเสนอ และมีการเผยแพร่กัน โดยเฉพาะในโลกโซเชียลมีเดียไปขยายผล ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียกับประเทศไทยมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้เพิ่มขึ้นไปอีก

“นอกเหนือจากนั้น ยังขออนุญาตเรียนถึงพี่น้องประชาชนทุกส่วน ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารสำคัญได้จากสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในส่วนของราชการ โดยรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะนำเรียนข้อมูลทั้งหลายให้ทราบโดยต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ สำหรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นข่าวลือว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการปิดส่วนราชการ จะมีการปิดโรงเรียน จะมีการปิดสถาบันการเงิน ขอยืนยันว่า ข้อมูลข่าวสารทั้งหลายเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ยังมีการปฏิบัติงานของส่วนต่าง ๆ ตามปกตินะครับ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารที่ได้เข้าพื้นที่ไปแล้วในขณะนี้ จะปิดการจราจรในบริเวณถนนพระราม 1 ตั้งแต่แยกเพลินจิตไปจนถึงแยกอังรีดูนังต์ ตั้งแต่เวลานี้จนกระทั่งถึง 12 นาฬิกาของวันพรุ่งนี้เท่านั้น

“และในส่วนสุดท้ายรัฐบาลขอเรียนถึงพี่น้องประชาชน ว่า ขอความกรุณาทุกท่าน ได้ร่วมกันสอดส่องดูแล ช่วยแจ้งเบาะแสข้อมูลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งบอกเหตุ สิ่งผิด สงสัย วัตถุ และบุคคลต้องสงสัย ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่อยู่ใกล้ที่สุดทราบ ถ้าหากท่านพบสิ่งต่าง ๆ ที่ผิดปกติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 แจ้งได้ตลอดเวลา มีเจ้าหน้าที่ติดต่ออำนวยความสะดวก รับข้อมูลข่าวสารท่านอยู่ตลอดเวลา และขอความกรุณาพี่น้องประชาชนทุกส่วนอยู่ในความสงบ อย่าได้ตื่นตระหนก เพราะในขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทางด้านความมั่นคงได้เข้าควบคุมพื้นที่ บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และพื้นที่ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ ที่จะอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนหมดเรียบร้อยแล้วครับ”

(พล.ต.วีรชน แถลงแปลเป็นภาษาอังกฤษ)

พ.อ.วินธัย - “ครับ สำหรับในส่วนของ คสช. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เจ้าหน้าที่ยืนยันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้นะครับ และยังอยู่ในระดับที่เจ้าหน้าที่ควบคุมได้นะครับ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และต้องมีคำสั่งให้ปิดสถานที่ราชการ หรือจะเป็นโรงเรียนก็ดี ซึ่งทั้งหมดเองเป็นข่าวลือทั้งสิ้น รวมถึงที่มีการเผยแพร่ข่าวสารในโซเชียลเรื่องเกี่ยวกับ 10 พื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ ซึ่งข่าวดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความวิตก หรือตื่นตระหนกได้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงนะครับ

“และหลังจากนี้ไป อยากจะขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนได้ระมัดระวังในการเผยแพร่ข่าวสารก็ดี หรือในการที่พี่น้องประชาชนคนใดจะบริโภคข่าวสารก็ดี อยากจะให้เป็นไปด้วยความระมัดระวังนะครับ และอยากจะให้ติดตามข่าวสารที่มีการนำเสนอจากทางราชการเป็นหลักนะครับ เพราะเกรงว่าจะทำให้สถานการณ์นั้นอาจจะบานปลายเกินกว่าความเป็นจริงที่เกิดขึ้นครับ”