“ธนะศักดิ์” เผยแจงสถานทูตเหตุบึ้มกลางกรุงแล้ว รับไม่เคยมีเหตุรุนแรงแบบนี้มาก่อน พร้อมอำนวยความสะดวกญาติเหยื่อเข้าประเทศ ชี้เป็นช่วงที่คนไทยต้องช่วยดูแลกัน รอผู้รับผิดชอบแถลงโยงต่างชาติ-อุยกูร์หรือไม่ ขออย่าพูดไปเรื่อยนั่งเทียนจะยิ่งสร้างผลกระทบ ยันคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่มีชาติใดขอข้อมูลเป็นพิเศษ วอนช่วยเป็นหูเป็นตา
วันนี้ (18 ส.ค.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุระเบิดที่ราชประสงค์เมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ได้ชี้แจงต่อสถานทูตทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากตอนนี้มีกระแสข่าวออกมาหลายทิศทาง ทั้งตรงบ้างไม่ตรงบ้าง และเราได้แสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และประเทศไทยไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงขนาดนี้มาก่อน จะเห็นได้ว่าจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมพื้นที่การดูแลผู้บาดเจ็บ ได้ทำได้ทันท่วงที ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์ นอกจากนี้ สิ่งที่เราสามารถสนับสนุนได้ตอนนี้คือการดูแลเรื่องวีซ่าเข้าประเทศของญาติผู้บาดเจ็บให้อำนวยความสะดวกให้เดินทางเข้าประเทศได้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ หน่วยงานความมั่นคงจะเป็นผู้ชี้แจงต่อไป
“สถานการณ์ขณะนี้เป็นช่วงที่คนไทยจะต้องช่วยกันดูแลกันให้มากขึ้น ดูแลเรื่องความรักความสามัคคี สิ่งเหล่านี้คือหน้าที่ของทุกคนที่จะช่วยกันแจ้งข่าวแจ้งเบาะแส” พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนร้ายที่เชื่อมโยงกับชาวต่างชาติหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ข่าวมีการแพร่กระจายไปหลากหลาย จะเอาให้แน่ ผู้รับผิดชอบจะเป็นผู้แถลงเองว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร ขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ เมื่อถามย้ำว่าสื่อต่างประเทศได้ออกมาวิเคราะห์กับเหตุการณ์ดังกล่าวว่ามีความเชื่อมโยงกับต่างชาติ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถึงได้บอกว่าข้อมูลไปกันเรื่อย จริงๆ ข้อมูลที่ถูกต้องต้องมาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ส่วนเรื่องของการกู้ภาพลักษณ์ประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวก็ต้องค่อยๆ แก้กันไป เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีแต่ในประเทศไทย แต่ไม่เคยเกิดขึ้นในไทย ที่เห็นทั่วไปก็เกิดขึ้นกันเยอะมาก สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ
เมื่อถามว่า ได้มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มอุยกูร์ มีข้อเท็จจริงอย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า “ถึงบอกว่ามีการพูดไปเรื่อยๆ ต้องบอกว่ารอให้เจ้าหน้าที่พูด ต้องรอการตรวจสอบ รอหลักฐาน และรอการชี้แจงแต่ถ้าเราพูดกันไปแบบนี้เรื่อยๆ มันไม่ได้ สื่อไทยจะต้องช่วยกันป้องกันประเทศ สื่อไทยต้องช่วยกันว่าข้อมูลที่แท้จริงเป็นอย่างไร ข้อมูลที่ถูกต้องจะต้องมาจากเจ้าหน้าที่ ไม่อย่างนั้นทุกคนก็จะนั่งเทียนเขียนกันไปเรื่อยๆ และเมื่อข่าวออกมาแล้วก็จะส่งผลกระทบ จะตามแก้ทีหลังก็ลำบาก ห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่พวกเราน่าจะต้องรักกัน ช่วยกัน”
เมื่อถามว่า ขณะนี้คิดว่าเจ้าหน้าที่ไทยสามารถดูแลสถานการณ์ได้ โดยไม่ต้องให้องค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาร่วมตรวจสอบใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ คสช.ยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน แปลว่าเรายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อวานจากการดูการรายงานสถานการณ์และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ก็พบว่าสามารถมีการควบคุมสถานการณ์ได้รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นก็มีผู้เกี่ยวข้องเข้าไปเยียวยาและช่วยดูแล ซึ่งขณะนี้ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศเอง หากใครประสงค์จะเข้ามาเยี่ยมญาติ เราก็พร้อมอำนวยความสะดวกให้
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีประเทศใดเข้ามาขอข้อมูลจากทางการไทยเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี และขณะนี้ได้ทำการชี้แจงผ่านเอกสาร รวมถึงการโทรศัพท์ไปแล้ว เพราะฉะนั้นหากเรียกสถานทูตเข้ามาชี้แจง ก็เป็นการให้คำตอบเหมือนที่ให้ไปในเอกสาร ส่วนข้อคำถามที่สงสัยกัน คำตอบจะอยู่กับผู้รับผิดชอบที่จะต้องตอบ ซึ่งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ คือการจะต้องได้รับข้อมูลที่แท้จริง จะไปพูดข้อมูลอื่นเลยไม่ได้ ขอฝากสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวด้วย
เมื่อถามว่า ได้มีการดูแลสถานทูตในไทยเพิ่มเติมหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ดูแลและควบคุมสถานการณ์ได้หมดแล้ว ขณะนี้ต้องเฝ้าระวัง ถ้าคนไทยช่วยกันเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส ก็จะไม่เกิด นี่คือบ้านเรา ไม่ใช่ที่ๆ ควรจะเกิดเหตุ เราต้องช่วยกันขณะนี้ทุกคนมีความเป็นห่วงหมด แต่สิ่งที่กลัวคือ การบอกเล่าสิ่งที่ไม่ใช่ พูดกันไปเรื่อย แล้วก็จะมีการนำเสนอสิ่งที่เราลงเนื้อหาต่อไป ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ใช่หรือไม่ ก็ไม่ทราบได้ แต่หากเรานำเสนอข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว มีข้อมูลที่ถูกต้อง สถานการณ์ก็จะดีขึ้นจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้
