xs
xsm
sm
md
lg

น้องประยุทธ์ไม่ผิด แต่ผิดถ้าใช้เส้นสาย - อำนาจพิเศษขึ้น ผบ.ทบ.!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผ่าประเด็นร้อน

เชื่อว่า นาทีนี้หลายคนคงเข้าใจอารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่อาจจะมีอาการ “ขุ่นมัว” หงุดหงิดบ้างเมื่อถูกซักถามเกี่ยวกับอนาคตของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก “น้องชาย” ที่กำลังถูกสังคมจับตามองว่าอาจจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ สืบแทน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร หลังวันที่ 30 กันยายน นี้

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แสดงความไม่พอใจเมื่อถูกผู้สื่อข่าวสอบถามในทำนองความเหมาะสมของ พล.อ.ปรีชา หากได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่

“น้องผมผิดอะไร ผมเคยพูดไปแล้วว่ามีคณะกรรมการและหลักเกณฑ์พิจารณา ในฐานะที่ผมเคยเป็นอดีต ผบ.ทบ. จะไม่ขอกล่าวถึงเรื่องนี้

เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ปรีชา ได้ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. จะกระทบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะกระทบได้อย่างไร ขอให้ลองไปดูรัฐบาลที่ผ่านมา มีนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ที่นามสกุลเดียวกันยังไม่มีใครว่าอะไรเลย

“น้องชายผมไม่เคยขออะไร เพราะทหารต้องโตด้วยตัวเอง ไม่ใช่จะเอื้อประโยชน์ให้ เพราะเป็นน้อง ได้แค่ไหนแค่นั้นเป็นแบบนี้มาตลอด การเป็นผู้ใหญ่ในกองทัพไม่ใช่สบายต้องลำบาก และตั้งใครส่งเดชทำไม่ได้ เพราะต้องได้รับการยอมรับจากคนในกองทัพ เราต้องสร้างวัฒนธรรมธรรมที่ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวปฏิวัติซ้อน ใครอยากทำมาเลย ปฏิวัติก็มาบอกผมได้เลย ผมไม่ต้องการอำนาจผลประโยชน์ แต่ต้องการให้ประเทศมีอนาคต”

อารมณ์และคำพูดที่พรั่งพรูออกมาแบบนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะเข้าใจได้ เพราะการอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ “เบอร์หนึ่ง” ของประเทศมันก็ย่อมต้องเจอคำถามอยู่แล้ว ตรงข้ามถ้าไม่ถามนี่สิแปลกกว่า ที่สำคัญ เพราะตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมีความสำคัญ ทั้งต่อกองทัพ และในปัจจุบันและอนาคตก็ยังมีผลต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกด้วย ดังนั้นช่วยไม่ได้ที่จะต้องเป็นคนที่ “ไว้ใจได้” ในลักษณะ “พิเศษ” จริง ๆ

หากพิจารณาจากรายชื่อบุคคลที่ “ชิงดำ” กันอยู่ในเวลานี้มีอยู่เพียงสองคนเท่านั้นคือ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช และ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเส้นทางที่มาของทั้งสองคนมีรายละเอียดที่ต่างกันเท่านั้น โดยคนแรกเติบโตมาในสาย “บูรพาพยัคฆ์” มาจาก “ราบ 21” เคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 มาก่อน และหาก “อาวุโส” ก็ต้องถือว่า พล.อ.ธีรชัย “เหลื่อมกว่า” ขณะที่ พล.อ.ปรีชา นั้น โตมาในกองทัพภาคที่ 3 มาตลอด และหากได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่จริง ๆ ก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่นอกเหนือจาก “พี่น้อง” จะเป็นผู้บัญชาการทหารบกแล้วยังถือว่าเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนแรกที่เติบโตจนถึงผู้นำสูงสุดของกองทัพบก

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตำแหน่งแล้วก็ถือว่าทั้งคู่ย่อมมีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ เพราะอยู่ในไลน์ “ห้าเสือ” ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และตามขั้นตอนก็จะมีคณะกรรมการพิจารณา โดยมีหลักเกณฑ์วางเอาไว้เป็นแนวทางอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในปีนี้หรือปีที่ผ่านมาเป็นช่วง “สถานการณ์พิเศษ” อาจมีเงื่อนไข หรือมี “ปัจจัยบางอย่าง” เข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องที่น่าพิจารณาประกอบเพิ่มเติม ก็คือ การโยกย้ายนายทหารครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับการพิจารณาในการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกด้วย ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าทั้งสองเรื่องกลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” นั่นคือ มีการคาดหมายว่าต้องมีระดับอดีตผู้นำเหล่าทัพ รวมทั้งนายทหารระดับสูงบางคนที่เกษียณอายุราชการมานั่งเป็นรัฐมนตรี หรือบางคนที่เป็นรัฐมนตรีอยู่แล้วอาจจะขยับไปนั่งในตำแหน่งสำคัญกว่าเดิม และนี่คือที่มาของการคาดเดาว่าอาจมีรายการ “ต่อรอง” กันจน “ลงตัว” ระหว่างเก้าอี้ในรัฐบาลกับตำแหน่งสำคัญในกองทัพก็เป็นได้

ดังนั้น เมื่อวกมาที่คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กล่าวว่า “น้องผมผิดอะไร” ก็สามารถตอบแทนได้ว่า พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ไม่มีความผิดหรอก แต่จะมีความผิดถ้าหากได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ด้วยวิธีการที่ “ผิดปกติ” ไม่ว่าจะใช้ “อำนาจพิเศษ” ข้ามหัวคนอื่นขึ้นไป อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งและความสามารถเขาก็มีสิทธิ์และมีความชอบธรรมที่จะได้รับการพิจารณาคัดเลือก

แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา เพราะนอกเหนือจากเรื่องโอกาสที่ “ไม่ธรรมดา” นักที่ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกทั้งนี่คือตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกอันสำคัญยิ่ง เพราะเป็นกองทัพของประชาชน !!
พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา
พล.อ.ธีรชัย นาควานิช
กำลังโหลดความคิดเห็น